กรมควบคุมโรค ร่วมกับ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและวิจัย เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข

          วันนี้ (7 กันยายน 2566) ณ ห้องประชุมประเมินจันทวิมล กรมควบคุมโรค นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โชติรส พลับพลึง คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและวิจัย เรื่อง การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยมีคณะผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ มีเจตจำนงที่จะร่วมกันสนับสนุนการทำงานด้านวิชาการ การวิจัยด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข การแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาบุคลากร และการติดตามประเมินผล โดยกรมควบคุมโรค และมหาวิทยาลัยมหิดล

          นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือด้านวิชาการและวิจัยของทั้งสองฝ่าย จะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค  นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้จัดการสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดจากโรคระบาดรุนแรงให้บรรลุตามเจตจำนงที่ตั้งไว้ รวมทั้งสร้างระบบรองรับความมั่นคงทางการแพทย์และสาธารณสุขให้แก่ประเทศ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของคนไทยในอนาคต

          ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โชติรส พลับพลึง คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านการพัฒนานวัตกรรมชุดทดสอบ น้ำยาและอุปกรณ์การแพทย์ เช่น ชุดทดสอบโรคไข้ฉี่หนู ชุดทดสอบสิ่งปนเปื้อนบนวัสดุการแพทย์ เป็นต้น โดยมีโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านนักวิจัย ผู้มีประสบการณ์ มีงานบริการด้านการแพทย์ ตลอดจนโรงงานผลิตชุดทดสอบทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานสากล จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนทรัพยากรร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเป็นหน่วยงานรองรับด้านการวิจัยและพัฒนาชุดทดสอบทางการแพทย์  ซึ่งนำมาใช้บริหารจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เช่น การระบาดของโรคติดต่อที่มีผลกระทบสูง เพื่อความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศ โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้จะประกอบด้วย

1. พัฒนาทักษะด้านวิชาการ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค    
2. วิจัยและพัฒนานวัตกรรมชุดทดสอบทางการแพทย์ น้ำยา อุปกรณ์ทางการแพทย์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เป็นความต้องการของประเทศ
3. พัฒนากลไกการแลกเปลี่ยนและการใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกัน
4. ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุขและติดตามประเมินผลร่วมกัน

********************************

ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป/กองนวัตกรรมและวิจัย/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

                     วันที่ 7 กันยายน 2566