กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ รณรงค์ให้ความรู้และบริการทำฟันฟรี พร้อมกันทั่วประเทศ 21 ตุลาคมนี้ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า เผยผลสำรวจล่าสุด พบมีปัญหาในช่องปากทุกวัย โดยเด็กที่ฟันผุมีสาเหตุสำคัญมาจากกินขนมกรุบกรอบและการดื่มน้ำอัดลม ส่วนผู้ใหญ่สูญเสียฟันจากโรคปริทันต์ เร่งสร้างพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสม ทุกช่วงวัยของชีวิต โดยเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก วันนี้ (15 ตุลาคม 2551) ที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประมุข จันทวิมล เลขาธิการมูลนิธิ พอ.สว. ศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ผู้อำนวยการหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันเปิดโครงการ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” ตุลาคมเดือนแห่งการดูแลสุขภาพช่องปากคนไทย เพื่อรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปาก เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ปี 2551 ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าวว่า สุขภาพในช่องปากมีผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกวัย โดยจากการศึกษาพบว่า แม่ที่เป็นโรคปริทันต์มีผลทำให้คลอดก่อนกำหนด และเด็กมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ส่วนแม่ที่มีฟันผุสูงจะถ่ายทอดเชื้อที่ทำให้ลูกฟันผุผ่านทางน้ำลายจากการใช้ช้อนร่วมกันได้ ในเด็กวัยเรียน ปัญหาฟันผุจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและความสามารถในการเรียนรู้ โดยผลสำรวจในปี 2550 พบว่ามีเด็กขาดเรียนเพราะปัญหาฟันผุปีละประมาณ 5 แสนคน ขณะที่ผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการเคี้ยวอาหารจะมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ถึง 3 เท่าของคนที่เคี้ยวอาหารได้ปกติ รวมทั้งยังทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาด้านจิตใจ และการร่วมกิจกรรมสังคมด้วย จึงต้องเร่งสร้างพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสมตั้งแต่วัยเด็ก และต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี เสริมด้วยการใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟัน และตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน ส่วนผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก ควรใส่ฟันเทียมเพื่อช่วยให้การเคี้ยวอาหารใกล้เคียงปกติ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์ทางทันตสาธารณสุขแก่ประชาชนทั่วประเทศ เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย และสืบสานพระเมตตาที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ให้พ้นความทุกข์ทรมานจากโรคฟัน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร โดยในปีนี้ สถานบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ร่วมกับสถานบริการของรัฐสังกัดอื่นๆ ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร จะจัดกิจกรรม นิทรรศการรณรงค์เผยแพร่ความรู้การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม และในวันที่ 21 ตุลาคม 2551 จะเปิดให้บริการตรวจ รักษาทางทันตกรรมแก่ประชาชนทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ด้านนายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปาก โดยกองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ครั้งล่าสุดในปี 2549 – 2550 พบว่า โรคฟันผุในฟันน้ำนมยังคงมีความชุกสูง โดยเด็กอายุ 3 ปีฟันน้ำนมผุร้อยละ 61 และอายุ 5 ปีฟันน้ำนมผุร้อยละ 81 เด็กวัยเรียนอายุ 12 ปีฟันแท้ผุร้อยละ 57 สาเหตุสำคัญมาจากกินขนมกรุบกรอบและดื่มน้ำอัดลม ส่วนผู้ใหญ่อายุ 35-44 ปี พบเริ่มมีการสูญเสียฟันถึงร้อยละ 83 เฉลี่ยคนละ 4 ซี่ ขณะที่ผู้สูงอายุเกือบทุกคนมีการสูญเสียฟัน เฉลี่ยคนละ 13 ซี่ โดยร้อยละ 10 สูญเสียฟันทั้งปาก นอกจากนี้ ในผู้ใหญ่ที่มีฟันร้อยละ 38 และผู้สูงอายุร้อยละ 84 ยังเป็นโรคปริทันต์ ซึ่งทำให้เกิดรากฟันผุตามมา และสูญเสียฟันในที่สุด โดยในวันนี้ กรมอนามัยได้จัดให้มีการประกวด “10 ยอดฟันดี วัย 80 ปี” เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม้จะอายุ 80 ปีก็มีฟันดีได้ หากได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เด็ก โดยได้รับเกียรติจากคุณขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ เข้าร่วมการประกวด และถ่ายทอดวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากตนเองที่ทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อเผยแพร่แก่ประชาชนต่อไป นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการ “สมเด็จย่าทรงพระเมตตา ให้ปวงประชามีฟันดี” นิทรรศการชุด “ปากคือประตูสู่สุขภาพ” กิจกรรม “แปรงเก่าแลกแปรงใหม่” การประกวดแปรงฟันถูกวิธี และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราคาถูกจากบริษัทเอกชนอีกหลายแห่งด้วย ************************************ 15 ตุลาคม 2551


   
   


View 16    15/10/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ