กรมวิทย์ฯ เร่งรัดนำเทคโนโลยีใหม่การถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อวัณโรค ยกระดับการควบคุมและรักษาวัณโรคในจังหวัดเชียงราย ให้เป็นต้นแบบระดับนานาชาติ เพื่อยุติวัณโรค ในปี พ.ศ.2573

  วันนี้ (18พฤษภาคม 2566) กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ Japan International Cooperation Agency (JICA) ประเทศญี่ปุ่น ลงนามความร่วมมือทางวิชาการโครงการ Technical Cooperation Project for Accelerating Social Implementation of Science and Technology (TCP/ASIST) โดยมี นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ MrKazuya Suzuki หัวหน้าผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สำนักงานประเทศไทย เป็นผู้ลงนามบันทึก ร่วมกับผู้แทนกรมควบคุมโรค
พญ.ผลิน กมลวัทน์ ผู้อำนวยการกองวัณโรค และ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลสำเร็จของโครงการ “SATREPS project 2015-2019” โดยเฉพาะการใช้การแพทย์จีโนมิกส์หรือการแพทย์แม่นยำ สำหรับการควบคุมวัณโรคในแหล่งระบาดและการรักษาผู้ป่วยเพื่อยุติวัณโรค มุ่งพัฒนาแนวทางการควบคุมวัณโรค ร่วมกับ กองวัณโรค กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยุติวัณโรคในประเทศไทย ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพฯ

  นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า วัณโรคยังเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย ที่ทำให้ประเทศไทยยังไม่บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG)  ประเทศไทยยังเป็น 1 ใน 14 ประเทศของโลกที่มีภาระวัณโรคสูง ในแต่ละปีมีผู้ป่วย
วัณโรคเสียชีวิตประมาณ 12,000 ราย จำนวนผู้ป่วยวัณโรคของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับการใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งต้องมีมาตรการใหม่เพิ่มเติม เพื่อเร่งรัดให้ยุติวัณโรคให้เป็นไปตามเป้าหมายการลดวัณโรคอย่างน้อยร้อยละ 12.5 ต่อปี

  ที่ผ่านมา ในช่วงปี พ.ศ.2558 ถึง 2562  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ร่วมกับ School of International Health (SIH), Graduate School of Medicine, Faculty of Medicine, มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินการโครงการ “Integrative Application of Human and Pathogen Genomic Information for Tuberculosis Control” โดยได้รับการสนับสนุนร่วมกันจากทั้งสองประเทศ ภายใต้โปรแกรม Science and Technology Research Partnership for Sustainable Development (SATREPS) เกิดผลสำเร็จที่นำไปใช้สนับสนุนยุทธศาสตร์ยุติวัณโรค เช่น การถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อ Mycobacterium tuberculosis (MTB) เพื่อระบุสายพันธุ์และประเมินความไวยาของเชื้อ การตรวจการแสดงออกของยีน (Gene Expression) เพื่อวินิจฉัยผู้ป่วยวัณโรค (Active TB disease) การตรวจ Interferon-gamma release assay (IGRA) เพื่อวินิจฉัยผู้ติดเชื้อวัณโรคระยะแฝง (latent TB infection) และตรวจยีนย่อยยา N-Acetyltransferase 2 (NAT2) เพื่อป้องกันตับอักเสบจากยาต้านวัณโรค



   
   


View 528    18/05/2566   ข่าวในรั้ว สธ.    สำนักสารนิเทศ