สธ.ระดมทีมกู้ชีพจาก รพ. 6 แห่ง เสริมกำลังกู้ชีพเอราวัณ กทม. เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บ 47 ราย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระดมแพทย์กู้ชีพจาก รพ.นพรัตนราชธานี รพ.เลิดสิน รพ.สมุทรปราการ รพ.พระนั่งเกล้า รพ.ฉะเชิงเทรา และรพ.ปทุมธานี เสริมกำลังหน่วยกู้ชีพเอราวัณ กทม. พร้อมให้รพ.ราชวิถี สำรองเตียงและห้องฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเต็มที่ ล่าสุดมีได้รับรายงานผู้บาดเจ็บจำนวน 47 ราย วันนี้ (7 ตุลาคม 2551) ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภาว่าได้สั่งการให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมรับมือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ โดยระดมทีมจากรพ.นพรัตนราชธานี รพ.เลิดสิน รพ.สมุทรปราการ รพ.พระนั่งเกล้า และรพ.ปทุมธานี พร้อมรถพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ชั้นสูง ร่วมปฏิบัติงานสมทบกับหน่วยกู้ชีพเอราวัณของกทม. โดยประจำการอยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะเดียวกันได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดที่อยู่ในกทม.และปริมณฑลอื่นๆ เตรียมพร้อมในที่ตั้ง และพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันทีเมื่อร้องขอเพิ่มเติม ล่าสุดได้รับรายงานมีผู้บาดเจ็บ 47 รายในจำนวนนี้อาการหนัก 4 ราย ได้แก่ ขาขาด 1 ราย รอยแผลไฟไหม้ที่บริเวณหลัง 1 ราย บาดเจ็บที่ตา 1 ราย เป็นแผลที่ใบหน้า 1 ราย โดยผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่ รพ.วชิระพยาบาล 27 ราย รพ.รามาธิบดี 18 ราย และรพ.ราชวิถี 2 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บทยอยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากอาการระคายเคืองตา ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมหน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาล 6 แห่ง ได้แก่ รพ.เลิดสิน 2 ทีม รพ.นพรัตนราชธานี 1 ทีม รพ.พระนั่งเกล้า 1 ทีม รพ.ปทุมธานี 1 ทีม รพ.สมุทรปราการ 1 ทีม รพ.ฉะเชิงเทรา 1 ทีม และประสานงานทีมรถฉุกเฉินจาก รพ.รามาธิบดีอีก 1 ทีม ทั้งหมดนี้ประจำการอยู่ที่สนามเสือป่า ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด เตรียมพร้อมห้องผ่าตัด และสำรองเลือดและเตียงไว้ให้พร้อม และประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยแพทย์เอราวัณ กทม.ในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นายแพทย์ปราชญ์กล่าวต่อไปว่าสำหรับการดูแลผู้บาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมี มีคุณสมบัติที่ทำให้เยื่อบุในช่องปากและโพรงจมูกเกิดอาการระคายเคือง อาการจะทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง แสบตา จมูก ปาก ทางเดินหายใจ แน่นหน้าอก ไอ คลื่นไส้อาเจียน หายใจลำบาก โดยอาการเหล่านี้ เกิดขึ้นชั่วคราวแล้วจะหายไปหลังจากสัมผัสประมาณ 5-30 นาที วิธีการรักษาหากสัมผัสแก๊สน้ำตา ให้รีบบ้วนน้ำ อย่ากลืนลงไป โดยเฉพาะหากเป็นผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ให้พยายามถอดออก โดยล้างมือให้สะอาดก่อน และหายใจเข้าออกช้าๆอยู่ในความสงบ ไม่ควรตกใจ ให้ดื่มน้ำมากๆและใช้น้ำล้างหน้าล้างตาในกรณีที่ถูกแก๊ส *************************************** 7 ตุลาคม 2551