กระทรวงสาธารณสุข จับมือ สปสช. มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จัดโครงการผ่าตัดโรคหัวใจในเด็ก 1,160 ราย นอกเวลาราชการในรพ.รัฐ-เอกชน 22 แห่ง เฉลิมพระเกียรติในหลวงและพระราชินี และร่นคิวรักษาเร็วขึ้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างเดือนสิงหาคม 2551-ธันวาคม 2552 ติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดสธ.ใกล้บ้าน ชี้ไทยมีเด็กเกิดใหม่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดปีละ 8,000 ราย ครึ่งหนึ่งจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัด มิฉะนั้นอาจเสียชีวิตหรืออายุสั้น บ่ายวันนี้ (1 กันยายน 2551) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พีรพล สุทธิวิเศษศักดิ์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และศาสตราจารย์นายแพทย์บุญชอบ พงษ์พาณิชย์ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แถลงข่าวการเปิดโครงการ “ผ่าตัดเด็กโรคหัวใจ 1,160 ราย นอกเวลาราชการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้จัดทำโครงการ “จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 สร้างสามัคคี” กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ จัดทำโครงการผ่าตัดโรคหัวใจในเด็กในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า นอกเวลาราชการ จำนวน 1,160 ราย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดเร็วขึ้น ในแต่ละปีไทยมีเด็กเป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดประมาณร้อยละ 1 หรือ 8,000 ราย โดยร้อยละ 50 มีความพิการน้อยและอาจหายเองได้ เช่น มีรูรั่วที่ผนังกั้นห้องหัวใจขนาดเล็กๆ แต่อีกครึ่งหนึ่งจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัด มิฉะนั้นอาจเสียชีวิตหรืออายุสั้น แต่ขณะนี้มีโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนผ่าตัดได้ปีละประมาณ 2,000 - 2,500 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องรอคิวนาน อาจเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษา นายชวรัตน์ กล่าวต่อว่า การผ่าตัดในโครงการดังกล่าว ดำเนินการในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน 22 แห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551–ธันวาคม 2552 หรือจนกว่าจะผ่าตัดครบ ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานป่วยด้วยโรคหัวใจ ติดต่อเข้าร่วมโครงการได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างใด ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคหัวใจในเด็กนั้น มากกว่าร้อยละ 80 มีสาเหตุมาจากความพิการของหัวใจมาแต่กำเนิด ที่พบบ่อยที่สุดคือผนังกั้นหัวใจมีช่องโหว่หรือผนังกั้นหัวใจรั่ว ซึ่งร้อยละ 90 ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงคือการติดเชื้อไวรัส เช่น ระหว่างตั้งครรภ์แม่ติดเชื้อหัดเยอรมัน แม่อายุเกิน 35 ปี ยาบางชนิดที่แม่รับประทานระหว่างตั้งครรภ์ เป็นต้น เด็กจะมีปัญหาเหนื่อยหอบง่าย เจริญเติบโตช้า สาเหตุที่พบรองลงมาคือโรคหัวใจรูมาติก (ลิ้นหัวใจรั่ว) ซึ่งมักจะเป็นในเด็กอายุมากกว่า 5 ขวบ เกิดจากการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัสที่ทอนซิลและคอแล้วไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ทำให้เกิดโรคไข้รูห์มาติก มีอาการไข้ ปวดข้อ ทำให้ลิ้นหัวใจอักเสบ และเกิดการรั่วตามมา ถ้าเป็นมากต้องรักษาโดยการผ่าตัด ทางด้านศาสตราจารย์นายแพทย์บุญชอบ พงษ์พาณิชย์ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า มูลนิธิฯได้ร่วมมือกับโรงพยาบาล และสถาบันต่างๆ ที่ผ่าตัดโรคหัวใจในเด็ก ดำเนินโครงการผ่าตัดเด็กโรคหัวใจชนิดไม่ซับซ้อนนอกเวลาราชการตั้งแต่ปี 2545 เพื่อเปิดโอกาสให้แพทย์ใช้เวลาราชการในการผ่าตัดเด็กที่มีปัญหาซับซ้อนอย่างเต็มที่ ผลการดำเนินงานจนถึงขณะนี้ มีเด็กเข้ารับการผ่าตัดแล้ว 4,726 ราย สำหรับการดำเนินโครงการผ่าตัดเด็กโรคหัวใจนอกเวลาราชการเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ มูลนิธิฯ จะจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ ออกค้นหาผู้ป่วย ตรวจคัดกรองโดยตรวจคลื่นหัวใจ และเอ็กซเรย์ หากพบจะส่งตัวเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ 22 แห่ง โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นผู้รับผิดชอบค่าผ่าตัด ส่วนมูลนิธิฯสนับสนุนค่าตอบแทนแพทย์ผ่าตัดนอกเวลาราชการ กรณีผ่าตัดเปิดหัวใจรายละ 25,000 บาท สำหรับผ่าตัดแบบไม่เปิดหัวใจรายละ 15,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดและการดูแลผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่าใช้จ่ายประจำวันให้ผู้ป่วยที่ฐานะยากจนด้วย สำหรับโรงพยาบาล 22 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.ราชวิถี รพ.สุราษฎร์ธานี รพ.สงขลานครินทร์ รพ.ยะลา รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี รพ.ศูนย์ชลบุรี รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ศูนย์โรคหัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น รพ.ศิริราช รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น รพ.รามาธิบดี รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ รพ.พระมงกุฎเกล้า รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น กทม. และรพ.เวชประสิทธิ ขอนแก่น ****************************************** 1 กันยายน 2551


   
   


View 12    01/09/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ