รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายให้ผู้บริหารสาธารณสุขระดับจังหวัด ยึดแนวทาง สุขภาพที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ขับเคลื่อนงานสู่ประชาชน โดยเน้นหนักการป้องกันโรค เตรียมเปิดบริการตรวจมะเร็งปากมดลูกฟรี 116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อ ลดการป่วยและเสียชีวิตในผู้หญิง และเตรียมเดินสายลงเยี่ยมเจ้าหน้าที่ในสถานีอนามัย ศูนย์แพทย์ชุมชน โรงพยาบาลชุมชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในเร็วๆนี้ เพื่อวางแผนสร้างขวัญกำลังใจให้เหมาะสม
เช้าวันนี้ (14 สิงหาคม 2551) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมประจำเดือนของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และมอบนโยบายในการทำงานแก่ผู้บริหารจากส่วนกลางและภูมิภาค ประกอบด้วย อธิบดีทุกกรม ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปจากทั่วประเทศ จำนวนกว่า 400 คน ว่า ในการขับเคลื่อนงานสาธารณสุขต่อไปนี้ ขอให้ผู้บริหารยึดแนวทาง สุขภาพที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เป็นแนวปฏิบัติเดียวกันทั่วประเทศ ให้ทุกจังหวัดเพิ่มน้ำหนักที่การป้องกันไม่ให้ประชาชนเจ็บป่วยทุกวิถีทาง โดยมุ่งลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ 6 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 3 ส. ความเสี่ยงทางเพศ การสูบบุหรี่ สุรา ยาเสพติด และ 3 อ.ได้แก่ อุบัติเหตุจราจร อาหารต้องปลอดภัยมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ระวังการใช้น้ำมันทอดซ้ำในอาหารพร้อมปรุง และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย สามารถประหยัดเงินภาครัฐในการรักษาพยาบาลได้
นายชวรัตน์ กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคมนี้เป็นเดือนแห่งวันแม่แห่งชาติ ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการตรวจสุขภาพผู้ขับขี่รถสาธารณะที่อยู่ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 12 พรรษา พระบรมราชินีนาถมหาราชินี ในโรงพยาบาล 7 แห่ง ได้แก่ ร.พ.ราชวิถี สถาบันประสาทวิทยา ร.พ.สงฆ์ ร.พ.เลิดสิน ร.พ.นพรัตนราชธานี สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ ร.พ.พระนั่งเกล้า จะดำเนินการเป็นเวลา 116 วัน เริ่มตั้งแต่วันแม่ถึงวันพ่อ ผลการตรวจพบว่าคนขับรถสาธารณะมีปัญหาสุขภาพประมาณร้อยละ 10 ซึ่งบางคนไม่รู้ตัวมาก่อน โครงการนี้มีประโยชน์มาก จึงมีนโยบายจะเพิ่มบริการตรวจหามะเร็งปากมดลูกในกลุ่มผู้หญิงที่เป็นกลุ่มเสี่ยงคืออายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศด้วย เพราะโรคนี้เป็นต้นเหตุให้ผู้หญิงเสียชีวิตปีละกว่า 3,000 ราย เฉลี่ยวันละ 8 ราย ทั้งๆที่มีวิธีป้องกันอย่างได้ผล คือการตรวจที่เรียกว่าแป็บสเมียร์ (Pap Smear) ตรวจง่าย ต้นทุนต่ำเพียงไม่ถึง 50 บาท แต่ถ้าป่วยและรักษาจะต้องเสียเงินนับแสนบาทอาจจะไม่ได้ผล และคนที่เป็นส่วนใหญ่จะอยู่ในชนบทมาก จะให้ทุกจังหวัดเปิดบริการพร้อมๆกัน
นอกจากนี้ สิ่งที่ตั้งใจจะดำเนินการโดยเร็ววันที่สุด ก็คือการเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อหาทางเพิ่มขวัญกำลังใจแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับที่เสียสละปฏิบัติงานท่ามกลางของความไม่สงบ โดยจะลงไปตรวจเยี่ยมสถานีอนามัย ซึ่งถือเป็นหน่วยงานด่านหน้าของกระทรวงสาธารสุขที่อยู่ชุมชน และเยี่ยมศูนย์แพทย์ชุมชน หรือโรงพยาบาลชุมชน เพราะต้องการเห็นความเป็นอยู่ของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุขอื่น ๆ ว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ปรับแก้ในระดับนโยบาย ให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคนทำงานอย่างมีความสุขขึ้น นายชวรัตน์กล่าว
***************************************** 14 สิงหาคม 2551
View 15
14/08/2551
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ