กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนโชเฟอร์รถโดยสารสาธารณะในเขตกทม.และปริมณฑล ทั้งแท็กซี่ รถตู้ รถสองแถว รถเมล์ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เข้ารับการตรวจเช็คสุขภาพฟรี ในโรงพยาบาล 7 แห่ง ระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 12 กันยายน 2551 เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชินีนาถ เป้าหมาย 100,000 คน หากพบมีภาวะเสี่ยงหรือเป็นโรคต่างๆ จะได้รับการรักษาและดูแลต่อเนื่อง โชเฟอร์ที่มีสุขภาพดี จะติดสติ๊กเกอร์โชว์ที่รถ เพิ่มความมั่นใจปลอดภัยผู้โดยสารสูงสุด
วันนี้ (6 สิงหาคม 2551) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและคณะ แถลงข่าวว่า เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมที่จะถึงในอีก 5 วันนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ เพื่อสุขภาพดีผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โดยจะจัดบริการตรวจสุขภาพฟรีให้กับผู้ขับขี่โดยสารสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ รถโดยสารประจำทาง รถตู้โดยสาร รถแท็กซี่ รถสองแถว มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เป้าหมาย 100,000 คน เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 12 กันยายน 2551 ในวันและเวลาราชการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ผู้ขับขี่รถประเภทดังกล่าวสามารถลงทะเบียนรับบริการตรวจฟรี ได้ที่โรงพยาบาล 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลสงฆ์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันประสาทวิทยา กทม. และโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจ.นนทบุรี ผู้ที่ผ่านการตรวจสุขภาพและมีสุขภาพดี จะได้รับสติ๊กเกอร์หรือป้ายติดที่รถ ให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการได้รับทราบ
นายชวรัตน์ กล่าวว่า โครงการนี้นับเป็นบริการเชิงรุก ในการสร้างสุขภาพดีแก่ประชาชนทุกอาชีพ เนื่องจาก ขณะนี้มักจะพบข่าวการเสียชีวิตของโชเฟอร์แท็กซี่ช็อกคาพวงมาลัยขณะขับรถ หรือหลับในก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้โดยสารหรือผู้ร่วมใช้ถนนได้ การขับรถเป็นอาชีพที่ทำงานบนความเร็ว ใช้ประสาทสัมผัสตลอดเวลา ทั้งสมอง ตา มือ หู เท้า ผู้ทำหน้าที่ขับรถจึงต้องมีความพร้อมทางสุขภาพ เพราะต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นในรถโดยสารด้วย ทั้งนี้ผลการตรวจสุขภาพพนักงานขับรถในช่วง 7 ปีมานี้ พบว่า มีเกือบ 1ใน 4 ที่ขับรถมากกว่าวันละ 8 ชั่วโมง มีการออกกำลังกายน้อย เพียงร้อยละ 21 เป็นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 20 โรคเบาหวานร้อยละ 6 และยังพบมีพฤติกรรมเสี่ยงอีก คือ ร้อยละ 50-60 สูบบุหรี่ และดื่มเหล้า ทำให้สุขภาพเสียไปเรื่อยๆ จึงต้องมีการตรวจสุขภาพเพื่อกระตุ้นให้ใส่ใจสุขภาพ
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการบริการตรวจสุขภาพครั้งนี้ใช้งบดำเนินการทั้งหมด 35 ล้านบาท จากกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การตรวจสุขภาพในโครงการนี้ โรงพยาบาลทั้ง 7 แห่ง จะตรวจร่างกายทั่วไป ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดรอบเอว ตรวจความเข้มข้นของเลือด ตรวจปัสสาวะ เอ็กซเรย์ปอด และตรวจระดับน้ำตาลและระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป โดยโรงพยาบาลจะแจ้งผลพร้อมลงบันทึกผลการตรวจและคำแนะนำให้ทราบ หากพบมีอาการผิดปกติ หรือควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม ก็จะส่งต่อไปยังหน่วยบริการตามสิทธิของแต่ละบุคคล ตามระบบส่งต่อเพื่อรักษาพยาบาลหรือดูแลอย่างต่อเนื่อง
View 18
06/08/2551
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ