ปลัด สธ. สั่งตั้งศูนย์ EOC รับมือ "อหิวาต์" พร้อมให้การสนับสนุนทีมช่วย "เมียนมา" ควบคุมป้องกันโรค เข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในไทย
- สำนักสารนิเทศ
- 220 View
- อ่านต่อ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจงฉากทัศน์ที่คาดการณ์จะพบผู้ติดเชื้อสูงสุดถึงวันละ 30,000 ราย หากพบการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนในช่วงปีใหม่จำนวนมาก เป็นการคาดการณ์กรณีที่ไม่ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค แต่ที่ผ่านมาประชาชนร่วมมือดีมาก ทำให้สถานการณ์ติดเชื้อจริงดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขอให้ทุกคนร่วมกันป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา ควบคู่ COVID Free Setting ช่วยลดความเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อ และรับวัคซีนตามที่กำหนด
วันนี้ (29 ธันวาคม 2564) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการทำแบบจำลองหรือฉากทัศน์การระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงหลังปีใหม่ ว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดทำฉากทัศน์การระบาดของโรคโควิด 19 ขึ้นมา 3 รูปแบบซึ่งกรณีที่ระบุว่า อาจมีการติดเชื้อถึง 3 หมื่นคน และเสียชีวิต 170-180 คนต่อวันนั้น เป็นการคาดการณ์ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด คือ มีการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคได้น้อยหรือไม่ปฏิบัติเลย แต่หากปฏิบัติตามมาตรการทั้งการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา (Universal Prevention) และมาตรการ VUCA ร่วมกับสามารถเร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้มากกว่าปกติ ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ก็จะสามารถควบคุมการระบาดภายในประเทศได้ดี ผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับที่สามารถดูแลได้ เป็นไปตามสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่คาดการณ์ไว้
“การทำฉากทัศน์เป็นการจำลองสถานการณ์ของการระบาดเพื่อได้เตรียมมาตรการรับมือ ซึ่งในการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตาในช่วงที่มีการผ่อนคลายมาตรการ รวมถึงการเปิดประเทศ ก็มีการทำฉากทัศน์ พร้อมออกมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมป้องกันโรค และพบว่าประชาชนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างดี ทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจริงต่ำกว่าสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่คาดการณ์ไว้” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
ดังนั้น เพื่อไม่ให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากตามฉากทัศน์ที่แย่ที่สุด ในช่วงปีใหม่นี้ขอให้ประชาชนเข้มมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง หากจำเป็นต้องไปร่วมงานที่มีคนจำนวนมาก หรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ให้เลี่ยงสถานที่ที่เป็นห้องปรับอากาศระบบปิด การหมุนเวียนอากาศไม่ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่โรค รวมถึงไปรับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น เพื่อเพิ่มภูมิต้านโรค โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
*********************************** 29 ธันวาคม 2564