ปลัด สธ. สั่งตั้งศูนย์ EOC รับมือ "อหิวาต์" พร้อมให้การสนับสนุนทีมช่วย "เมียนมา" ควบคุมป้องกันโรค เข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในไทย
- สำนักสารนิเทศ
- 189 View
- อ่านต่อ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามการวัคซีนโควิด 19 เข็มแรกของ จ.สมุทรสาคร จำนวน 159 คน ย้ำรัฐบาลจัดสรรฉีดวัคซีนฟรีทุกคน อย่าหลงเชื่อเสียเงินเพื่อฉีดวัคซีน เพราะรัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2564 ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 เข็มแรกของ จ.สมุทรสาคร ภายหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เป็นคนแรกของประเทศที่สถาบันบำราศนราดูรในช่วงเช้าวันนี้ โดยโรงพยาบาลสมุทรสาครได้เชิญกลุ่มเป้าหมายลำดับแรก อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ อสม. แรงงานในพื้นที่เสี่ยง ผู้ประกอบการ แม่ค้าในตลาด กลุ่มเสี่ยง ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้ารับการฉีดวัคซีน จำนวน 159 คน โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้รับการฉีดเป็นเข็มแรก
นายอนุทินกล่าวว่า จ.สมุทรสาครถือเป็น 1 ในจังหวัดเป้าหมายหลักของประเทศที่ประชาชนต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พบผู้ติดเชื้อจํานวนมากและยังคงพบอย่างต่อเนื่องทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว แม้ว่าจะสามารถเฝ้าระวังเชิงรุก และควบคุมโรคได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มลดลง ถือเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุข แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโดยการให้วัคซีนป้องกันโรค จะทำให้ประชาชน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ การเจ็บป่วยรุนแรง และการเสียชีวิตได้ โดยได้รับการจัดสรรวัคซีนรอบแรก 70,000 โดส และจะได้รับจัดสรรเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในชุมชน ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ได้กระจายการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชน เพื่อให้สามารถฉีดกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม และรวดเร็ว โดยกลุ่มเป้าหมายในช่วงแรกในการเข้ารับบริการ ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี ดังนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึง อสม. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ประชาชนที่มีโรคประจําตัว 7 กลุ่มโรค (โรคทางเดินหายใจรุนแรง, โรคหัวใจและหลอดเลือดโรค, ไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, มะเร็งที่อยู่ในระหว่างเคมีบําบัด รังสีบําบัด ภูมิคุ้มกันบําบัด, โรคเบาหวาน, โรคอ้วน มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35) และประชาชนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยง
“ขอยืนยันว่าวัคซีนทุกโดสมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานและกระบวนการผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขึ้นทะเบียนโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และทุกคนจะได้รับวัคซีนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่าหลงเชื่อคนที่บอกว่าเสียเงินแล้วถึงจะได้ฉีด หากพบขอให้แจ้งตำรวจหรือโรงพยาบาลทันที เนื่องจากรัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งเมื่อทยอยฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นจะป้องกันการระบาดในประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจและสังคมกลับมาปกติได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดให้ลงทะเบียนจองวัคซีนหรือให้มาขอรับการฉีดด้วยตนเองที่โรงพยาบาล แต่จะมีเจ้าหน้าที่แจ้งเชิญกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการฉีดตามลำดับ” นายอนุทินกล่าว
ด้านนายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สมุทรสาครได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด 19 ล็อตแรกประมาณ 7 หมื่นโดส จะฉีดให้แก่ประชาชนและกลุ่มเป้าหมาย 35,000 คน คนละ 2 โดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ เบื้องต้นจะฉีดในโรงพยาบาล 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลกระทุ่มแบน และโรงพยาบาลบ้านแพ้ว วันแรกประมาณ 500 คน จากนั้นจะขยับเป็นวันละ 1,000 คน และ 2,000 คน ตั้งเป้าฉีดให้เสร็จภายใน 1 เดือน หลังจากนั้นจะได้รับการจัดสรรวัคซีนล็อตถัดไป 6 หมื่นโดสในเดือนมีนาคม และ 1 แสนโดสในเดือนเมษายน จะกระจายในประชาชนในพื้นที่เสี่ยง มีความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนเพิ่ม 7 แห่ง รวมเป็น 10 แห่ง โดยจะมีเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังประชาชนในการให้ข้อมูล ลงทะเบียน นัดหมายล่วงหน้าเพื่อมารับวัคซีน เนื่องจากการฉีดวัคซีนต้องใช้เวลาในการสังเกตอาการ 30 นาที ต้องใช้ระบบนัดเพื่อความสะดวก ไม่รอนาน และไม่เกิดความสับสน
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสมุทรสาครมี 8 ขั้นตอนการฉีด ตั้งแต่จุดลงทะเบียน, จุดตรวจสุขภาพ วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก, จุดประเมินความเสี่ยง, จุดฉีดวัคซีน, บันทึกข้อมูล รับใบนัดฉีดครั้งที่ 2, จุดพักคอยสังเกตอาการ 30 นาทีหลังฉีดเสร็จ สแกน Line Official Account “หมอพร้อม”, จุดประเมินอาการก่อนกลับบ้าน และจุด Dash Board แสดงข้อมูลความครอบคลุมการฉีดวัคซีน มีระบบติดตามอาการหลังฉีดวัคซีน ในวันที่ 1, 7 และ 30 ด้วยระบบ Line Official Account “หมอพร้อม” นัดหมายการฉีดเข็มที่ 2 เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ขอให้นําบัตรประชาชนและเตรียมเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ หากมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 034-427099
******************************* 28 กุมภาพันธ์ 2564