ปลัด สธ. สั่งตั้งศูนย์ EOC รับมือ "อหิวาต์" พร้อมให้การสนับสนุนทีมช่วย "เมียนมา" ควบคุมป้องกันโรค เข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในไทย
- สำนักสารนิเทศ
- 217 View
- อ่านต่อ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงไทยมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 รวม 317,600 โดส จาก ซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า เมื่อผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ยืนยันวัคซีนโควิด 19 ย้ำไทยไม่ล่าช้า มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 มากที่สุดในอาเซียน และไม่ปิดกั้นการขึ้นทะเบียนวัคซีนจากบริษัทอื่น
วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 อยู่ในประเทศแล้ว 317,600 โดส เป็นวัคซีนล็อตแรกจากซิโนแวค 200,000 โดส และในส่วนแอสตร้าเซนเนก้า 117,600 โดส ที่ได้มาก่อนกำหนดจากโรงงานการผลิตที่มีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วโลก โดยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้ใช้ความพยายามในการเจรจาให้ได้วัคซีนมา ซึ่งวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าล็อตนี้เป็นส่วนหนึ่งของ 61 ล้านโดส ที่ได้ทำสัญญาจองซื้อมีมาตรฐาน และผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้เกิดความครอบคลุมการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุม
นายอนุทินกล่าวต่อว่า เมื่อวัคซีนจากทั้ง 2 บริษัทผ่านการตรวจรับรองคุณภาพและรับรองรุ่นการผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับผู้นำประเทศ จะมีคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นผู้ตัดสินใจ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขไม่ปิดกั้นการนำเข้าวัคซีนโควิด 19 จากบริษัทอื่นๆ หากมีเอกสารที่ถูกต้อง มีแหล่งที่มาและแหล่งผลิตที่ได้รับมาตรฐาน ก็สามารถนำมาขึ้นทะเบียนกับอย.ได้
“วัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทยไม่ได้ล่าช้าหรือมีอุปสรรคใดๆ วันนี้ไทยมีวัคซีนโควิด 19 อยู่ในมือมากที่สุดในอาเซียน หากนับจำนวนประชากรหรืออัตราส่วนประชากรประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้ และขอให้มั่นใจในวัคซีนและกระบวนการฉีดว่ามีความปลอดภัยในทุกขั้นตอน มีคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีน ควบคุมให้เกิดความเป็นธรรม ทั่วถึง เป็นไปตามหลักวิชาการทางการแพทย์ และอยู่ในกระบวนการสาธารณสุขที่แข็งแกร่งของประเทศไทยทุกประการ” นายอนุทินกล่าว
************************** 25 กุมภาพันธ์ 2564