ปลัด สธ. สั่งตั้งศูนย์ EOC รับมือ "อหิวาต์" พร้อมให้การสนับสนุนทีมช่วย "เมียนมา" ควบคุมป้องกันโรค เข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยงในไทย
- สำนักสารนิเทศ
- 192 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกล มอบภารกิจ อสม. พร้อมบอกต่อเรื่องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ออกเคาะประตูบ้าน สำรวจคัดกรองกลุ่มเป้าหมายในชุมชน แนะนำขั้นตอนรับการฉีดวัคซีน เชิญชวนลงทะเบียน LINE Official Account “หมอพร้อม” สร้างความมั่นใจ คืนรอยยิ้มประเทศไทย
วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2564) ณ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประชุมทางไกลผู้บริหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หัวหน้างานสุขภาพภาคประชาชน ประธานชมรม อสม.จังหวัด/อำเภอ ผู้แทนสาธารณสุขอำเภอ มอบหมายภารกิจ อสม.พร้อม บอกต่อเรื่องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 สร้างความมั่นใจประชาชน คืนรอยยิ้มประเทศไทย
นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหาและจัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้กับทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยตามความสมัครใจ ซึ่งขณะนี้วัคซีน 3 แสนโดสแรกถึงประเทศไทยแล้ว ทั้งจากบริษัทซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนกา ซึ่งจะทยอยส่งจนครบ 63 ล้านโดสและฉีดให้กับประชาชนภายในปี 2564 กระทรวงสาธารณสุข จึงได้มอบหมายให้ อสม.กว่า 1 ล้าน 5 หมื่น คน ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน ให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชน รวมทั้งให้สำรวจกลุ่มเสี่ยง และคัดกรองกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับวัคซีนเป็นอันดับแรก ให้คำแนะนำความสำคัญที่ต้องได้รับวัคซีน ความปลอดภัย รวมถึงขั้นตอนการรับการฉีดวัคซีน พร้อมเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนผ่าน LINE Official Account “หมอพร้อม” ที่เป็นช่องทางการสื่อสาร ตลอดจนติดตามอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ระบบนัดในการรับวัคซีน และการรายงานผลแก่เจ้าหน้าที่ โดยจะเริ่มฉีดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป
“ที่ผ่านมา อสม.ถือเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมการระบาด สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เชื่อว่า พลังของ อสม.จะถูกนำมาใช้อีกครั้งในการเป็นกระบอกเสียง สร้างการรับรู้ และความเข้าใจเรื่องวัคซีน รวมถึงการสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข เป็นมดงานให้กับประเทศไทย ซึ่งต้องเสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ ในการปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากโรคโควิด 19 ครั้งนี้” นายอนุทินกล่าว
ด้านนายแพทย์ธเรศ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ในระยะแรกที่มีวัคซีนจำกัด จะฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข กลุ่มบุคลากรด่านหน้า อสม. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เป็นต้น ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน โรคอ้วน ประชาชนและแรงงานกลุ่มเสี่ยง
************************** 25 กุมภาพันธ์ 2564