กระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 ปี 2563 มีหน่วยบริการขึ้นทะเบียนและเปิดให้บริการเพิ่มเป็น 1,991 หน่วย ในพื้นที่ 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ ตั้งเป้าภายในปี 2564 เพิ่มเป็น 2,500 หน่วยรวม กทม. เพื่อเพิ่มการเข้าถึง เพิ่มความเท่าเทียม พร้อมติดอาวุธทางปัญญา ให้หมอประจำบ้าน เสริมทัพการทำงานดูแลสุขภาพองค์รวม ทุกกลุ่มวัย ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนกระทั่งระยะท้ายของชีวิต

          นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ ครั้งที่ 4/2563 ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ ได้ให้ความสำคัญการขับเคลื่อนระบบสุขภาพปฐมภูมิ ด้วยการยกระดับระบบสุขภาพปฐมภูมิให้เข้มแข็ง โดยคนไทยทุกคนจะต้องมีหมอ 3 คน เป็นหมอประจำตัว ประกอบด้วย หมอประจำบ้าน (อสม.) หมอสาธารณสุข(บุคลากรสาธารณสุขปฐมภูมิใน รพ.สต./เทศบาล/คลินิกอบอุ่น ฯลฯ) และหมอครอบครัว(แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว) และพัฒนาหน่วยบริการปฐมภูมิเพื่อรองรับระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาท รักษาทุกที่) ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างมีคุณภาพ ลดเหลื่อมล้ำของหน่วยบริการ

          นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า การดำเนินงานที่ผ่านมาปี 2563 มีหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิใน 12 เขตสุขภาพ  จำนวน 1,991 หน่วย ครอบคลุมประชาชน 19,626,529 คน คิดเป็นร้อยละ 29.26  ส่วนเป้าหมายปี 2564  จะมีหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิตาม พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิฯ จำนวน 2,500 หน่วย ครอบคลุมประชาชน 25 ล้านคนได้รับการดูแล โดยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ (หมอ 3 คน) นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมด้านสุขภาพ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) ให้ได้รับการอบรมเพิ่มเติมระยะสั้นด้านสุขภาพปฐมภูมิของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้นและทำหน้าที่สนับสนุนแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการดูแลสุขภาพประชาชน ที่จะทำให้การทำงานในหน่วยปฐมภูมิหรือการดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

********************************  26 ตุลาคม 2563

****************************************

 



   
   


View 755    26/10/2563   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ