“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 139 View
- อ่านต่อ
รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ประจำวันที่ 2 กันยายน 2563
วันนี้ (2 กันยายน 2563) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ (สหรัฐอเมริกา 6 ราย, ออสเตรเลีย 1 ราย, ญี่ปุ่น 1 ราย) และเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้และสถานกักตัวที่รัฐกำหนด ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม จึงมีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,274 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.93 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 93 ราย หรือร้อยละ 2.72 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,425 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก
สหรัฐอเมริกา 6 ราย
ออสเตรเลีย 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 27 ปี สัญชาติไทย อาชีพนักศึกษา เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 24สิงหาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ใน จ.ชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจในครั้งแรก วันที่ 27 สิงหาคม 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ใน จ.ชลบุรี
ญี่ปุ่น 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 29 ปี (ว่างงาน) สัญชาติไทย เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 28 สิงหาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ใน จ.ชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจในครั้งแรก วันที่ 31 สิงหาคม 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ใน จ.ชลบุรี
นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่น่าจับตามองขณะนี้คือประเทศเมียนมา ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมามีการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็น 2 เท่า ของผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง ต้นเดือนสิงหาคม ทำให้ขณะนี้เมียนมามีผู้ติดเชื้อ 787 ราย สำหรับประเทศไทยมีความเสี่ยงโดยเฉพาะ 10 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาและจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน ดังนั้น การบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ความมั่นคง สาธารณสุข ภาคเอกชนประชาสังคม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว จึงมีความสำคัญในการจัดระบบเฝ้าระวัง ตรวจจับ ช่วยสอดส่องชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ รวมถึงการเคลื่อนที่ของประชากรตามแนวชายแดน ซึ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างอย่างเข้มข้น ป้องกันการลักลอบเข้าประเทศและนำเชื้อโควิด 19 เข้ามาในประเทศไทย
สำหรับภาคเอกชนที่รับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงานมีส่วนสำคัญที่จะช่วยจัดการกับปัญหาด้วยการให้ความรู้พนักงาน ไม่นำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าทำงานในระยะนี้ ขอความร่วมมือ พนักงาน แรงงานในบริษัทช่วยสอดส่องและไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย หากเกิดผลกระทบขึ้นมาไม่เพียงแค่เกิดโรคระบาด แต่จะรวมไปถึงภาคเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมและโรงงานด้วย เช่น การกำหนดพื้นที่เสี่ยง การสั่งปิดสถานประกอบการ การกักกันบุคลากร กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญในเรื่องแรงงานต่างด้าว การจัดการพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น การประกอบศาสนกิจขนาดใหญ่ การป้องกันโรคภายในโรงเรียนอย่างเหมาะสม และการเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการในโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยง มีผู้ป่วย โรคเรื้อรังและผู้สูงอายุเข้าใช้บริการ
“ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข ทุกหน่วยงานมีการทำงานร่วมกัน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค หากทุกฝ่ายยังเข้มในมาตรการจะทำให้ประเทศไทยปลอดการติดเชื้อไปได้อีก และหากเจอผู้ติดเชื้อเราจะสามารถควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ และระบบเศรษฐกิจน้อยที่สุด” นายแพทย์ธนรักษ์กล่าว
สำหรับในช่วงวันหยุดยาว 4 -7 กันยายน 2563 นี้ อยู่ในช่วงที่สถานการณ์ประเทศไทยมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ อยากเห็นคนไทยออกมาใช้ชีวิตกันในวิถีชีวิตปกติใหม่ เดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ด้วยการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ตลอดเวลาเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ หมั่นล้างมือ รับประทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว และลงทะเบียนแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”
********************* 2 กันยายน 2563
*************************************