“สมศักดิ์” ยกระดับหมอนวดไทยเชี่ยวชาญพิเศษ 7 กลุ่มอาการ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ
- สำนักสารนิเทศ
- 165 View
- อ่านต่อ
รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)
ประจำวันที่ 19 มีนาคม 2563
1. สถานการณ์ ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2563 ณ เวลา 08.00 น.
1. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 229 ราย กลับบ้านแล้ว 42 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 272 ราย
2. ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 18 มีนาคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 8,157 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 305 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 7,852 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 5,106 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 3,051 ราย
3. สถานการณ์ทั่วโลกใน 168 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 19มีนาคม 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 212,799 ราย เสียชีวิต 8,787 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,894 ราย เสียชีวิต 3,237 ราย
2.สธ.เผยพบผู้ติดเชื้อโคโรนา 2019 ใหม่เพิ่ม 60 ราย
กระทรวงสาธารณสุขเผยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่ม 60 ราย แนะผู้เที่ยวสถานบันเทิงและ ชมมวย ร่วมรับผิดชอบต่อสังคมปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย และคณะแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่าวันนี้มีผู้ป่วยใหม่ 60 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้
กลุ่ม 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 43ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 12 ราย, กลุ่มสถานบันเทิง 14 ราย, กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 12 ราย และกลุ่มที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาประเทศมาเลเซีย 5 ราย
กลุ่ม 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 17 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ 9 ราย, กลุ่มทำงานใกล้ชิดสัมผัสต่างชาติ 3 ราย ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดใกล้ชิดคนจำนวนมาก 1 ราย และรอผลสอบสวนโรคเพิ่มเติม 4 ราย
สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 3 ราย รายแรก ชายไทย อายุ 49 ปี ที่รักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤติโรงพยาบาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาการยังอยู่ในภาวะวิกฤติ ได้รับการล้างไตแล้วแต่ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว รายที่ 2 ชายชาว เบลเยี่ยม อายุ 67 ปี ที่โรงพยาบาลในจังหวัดเพชรบูรณ์ อาการยังอยู่ในภาวะวิกฤติ มีประวัติป่วยเป็นโรคหัวใจ กินยาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ใส่ท่อช่วยหายใจ รายที่ 3 รักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
สำหรับกลุ่มที่เดินทางกลับจากประเทศอิตาลี ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี 83 คน ทั้งหมดไม่มีไข้ ยังต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการ จนครบ 14 วัน
สรุปวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านแล้ว 42 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 229 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 272 ราย
สถานการณ์ขณะนี้ผู้ป่วยรายใหม่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยเป็นผู้ทำงานในสถานบันเทิง คนเที่ยว รวมไปถึงคนในครอบครัวซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เริ่มพบรายงานผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม2563 ถึงขณะนี้รวม 57 ราย ส่วนกลุ่มสนามมวย พบการติดเชื้อตั้งแต่ ผู้จัด เจ้าของค่าย เซียนมวย พิธีกร ผู้ชม รวมไปถึงครอบครัว คนใกล้ชิด พบตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2563 ถึงขณะนี้ รวม 52 ราย ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ชมที่มาจากต่างจังหวัดเมื่อป่วยก็จะนำเชื้อกลับไปติดคนใกล้ชิด คนในครอบครัว คนในภูมิลำเนา ที่สำคัญยังมีบางคนที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (ยังไม่ป่วย) ไม่ได้กักกันตัวเองตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขไปมีกิจกรรมกับผู้อื่นในสังคม ซึ่งเป็นอันตรายมากต่อผู้อื่น จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้หลีกเลี่ยง/งดการไปในสถานที่ที่คนแออัดเนื่องจากเป็นสถานที่เสี่ยงสูง ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค เช่น ผับ ร้านอาหาร สถานบันเทิง เวทีมวย และอื่นๆ เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ขอแนะนำประชาชนให้ งด/ลด การเดินทาง ไปในพื้นที่เสี่ยงของการระบาดของโรค ไม่ออกนอกพื้นที่โดยไม่จำเป็น หากรู้ว่าตนเองเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง (ครอบครัวผู้ป่วย เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน ร่วมวงสังสรรค์ ร่วมเชียร์มวย เชียร์บอล ผู้นั่งติดกัน ใช้พาหนะร่วมกัน) ขอให้ร่วมรับผิดชอบสังคม ด้วยการกักกันตนเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด (Self-Quarantine at Home) รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัยรีบไปพบแพทย์ทันทีพร้อมแจ้งประวัติความเสี่ยง ขอให้แยกของใช้ส่วนตัว รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ แยกสำรับอาหาร ถ้าไม่แยกสำรับ ให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว
3. คำแนะนำสำหรับประชาชน
ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/และ “ไทยรู้ สู้โควิด” ทาง Twitter, Facebook, Line official, TikTok และChatBot 1422 ทาง ID : @COVID-19 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ตรวจสอบข่าวลวงได้ที่ www.antifakenewscenter.com
************************************** 19 มีนาคม 2563
***************************