กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ให้แยกพื้นที่เลี้ยงไก่เป็ดให้เป็นสัดส่วน ไม่นอนมุ้งเดียวกับไก่ และอย่าให้เด็กอุ้มไก่หรือคลุกคลีอย่างเด็ดขาด เพราะอาจสัมผัสขี้ไก่ ขี้เป็ด ขณะหนีน้ำอยู่บนบ้านด้วยกัน และหากมีไก่ป่วยห้ามป้อนยา จะเสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หวัดนกได้ นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขในฐานะมิสเตอร์ไข้หวัดนกของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสภาพน้ำท่วมหลายจังหวัดขณะนี้ พบว่ามีชาวบ้านบางแห่ง ได้อพยพนำไก่ เป็ด ย้ายหนีน้ำเข้าไปอยู่รวมกับคน หลายครอบครัวเลี้ยงอยู่บนบ้านที่คับแคบ ไม่มีที่เลี้ยงสัตว์เป็นสัดส่วน และไก่ขี้เรี่ยราดบนที่พักอาศัย เสี่ยงโรคไข้หวัดนก และไม่ควรนอนมุ้งเดียวกับไก่ แม้ว่าสถานการณ์โรคไข้หวัดนกขณะนี้จะสงบแล้วก็ตาม ดังนั้นหากพบว่าไก่หรือเป็ดตัวไหนไม่สบาย ขอให้ประชาชนคิดว่าอาจมีเชื้อโรคไข้หวัดนก ห้ามป้อนยารักษาเองอย่างเด็ดขาด หรือหากไก่เป็ดตายอย่าเสียดายนำมาปรุงเป็นอาหารอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเสี่ยงติดเชื้อสูงมาก และให้ฝังทำลายซากไก่เป็ดที่ตาย ห้ามโยนทิ้งตามน้ำท่วมอย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงเชื้อโรคไข้หวัดนกแพร่ระบาด นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า เพื่อความปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนก ขอให้ประชาชนระมัดระวังอย่าให้เด็ก ซึ่งขณะนี้อยู่ช่วงปิดเทอมด้วย อุ้มหรือเล่นกับสัตว์ปีกอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายด้วยโรคไข้หวัดนก จะมีเชื้อไวรัสจำนวนมากในมูลหรือขี้ของสัตว์ หรืออยู่ในน้ำมูก น้ำลาย เสลดและเลือด ซึ่งคนส่วนใหญ่จะได้รับเชื้อโดยตรงโดยการจับต้องซากสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตาย ทั้งนี้ เชื้อไวรัสไข้หวัดนกจะมีชีวิตอยู่ในมูลหรือขี้ไก่สด ซึ่งอยู่ในที่ร่มไม่ถูกแสงแดดส่องโดยตรงได้นาน 4 - 6 วัน แต่จะอยู่กลางแดดได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดนกที่ดีที่สุด ต้องล้างมือบ่อย ๆ ต้องสวมถุงมือยางทุกครั้งหากจะสัมผัสสัตว์ปีก และใช้ผ้าปิดปาก จมูก ห้ามใช้ปากดูดเสลดไก่อย่างเด็ดขาด เมื่อมีสัตว์ปีกตายต้องรีบแจ้งและขอคำแนะนำเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ประจำหมู่บ้านทราบโดยเร็วที่สุด นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าว ตุลาคม/7 *************************** 3 ตุลาคม 2549


   
   


View 10    03/10/2549   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ