กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพัฒนาโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นศูนย์เชี่ยวชาญโรคหัวใจประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีศักยภาพพร้อม สามารถทำบอลลูนหัวใจผู้ป่วยในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าวันละ 5 ราย เผยขณะนี้คนไทย เจ็บ-ตาย ลัดคิววัฏจักรชีวิต เหตุหลักมาจากพฤติกรรมเสี่ยง 6 ประการ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุมวิชาการ ระหว่างโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และสมาคมแพทย์ไทยในสหรัฐอเมริกา มีแพทย์ไทยทุกสาขาและพยาบาลที่ไปประกอบวิชาชีพที่สหรัฐอเมริกามาประชุม 130 คน ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 มกราคม 2551 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา และครบ 84 พรรษา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ว่า การจัดประชุมวิชาการครั้งนี้เป็นประโยชน์มาก ในการพัฒนาความก้าวหน้าทางการแพทย์และการพยาบาล ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เช่น การผ่าตัดกระดูก การผ่าตัดทางกล้อง การดูแลเด็กทารกภายหลังช่วยฟื้นคืนชีพ การตรวจหามะเร็งเต้านม การผ่าตัดตา การดูแลผู้ป่วยอัมพาต การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ และการดูแลทางจิตใจ เนื่องจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 1,000 กว่าเตียง และเป็นสถาบันการเรียนการสอนแพทย์และพยาบาลด้วย นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทำผ่าตัดวันละ 100-120 ราย และรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ด้วยวิธีทำบอลลูนเพื่อขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ มากเป็นอันดับ 2 รองจากโรงพยาบาลศิริราช โดยทำได้วันละ 5 ราย แต่มีห้องผ่าตัดเพียง 1 ห้อง กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจะพัฒนาโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคหัวใจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะต้องพัฒนาด้านอาคารสถานที่ เครื่องมือแพทย์ ให้เหมาะสมไปพร้อมๆ กับโรงพยาบาลใหญ่อีกหลายแห่ง ได้ให้ผู้บริหารเร่งจัดทำโครงการในโครงการเมกะโปรเจค เพื่อเสนอรัฐบาลใหม่แล้ว “การจัดระบบบริการสุขภาพในภาพรวม กระทรวงสาธารณสุขเน้นหนัก 2 นโยบายใหญ่ควบคู่กัน คือ ให้การรักษาพยาบาลดีที่สุด (Philosophy of the best) และการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคประชาชนทุกคน (Philosophy of the most) แต่ต้องยอมรับว่าขณะนี้หรือที่ผ่านมา คนไทยมีความรู้ด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานน้อยกว่าประเทศที่เจริญแล้ว ทำให้เกิดเจ็บป่วยง่าย และทุกวันนี้การเกิดแก่เจ็บตายไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ตายก่อนถึงวัยอันควร ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรม งานศพต่างๆ มักเกิดจากอุบัติเหตุ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง” นายแพทย์ปราชญ์ กล่าว นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่ออีกว่า จากการศึกษาวิจัยสาเหตุการเจ็บป่วย พบว่ามาจากพฤติกรรม 6 ประการ ได้แก่ 1.การบริโภคเกิน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการโฆษณา การสูบบุหรี่ ยาเสพติด 2.พฤติกรรมทางเพศ ทำให้มีคนติดเชื้อเอดส์ 39 ล้านคน ในไทยมีผู้ติดเชื้อ 1 ล้านกว่าคน 3.พฤติกรรมขาดการออกกำลังกาย 4.พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ในไทยมีรายงานการเสียชีวิต 16,000 คน 5.พฤติกรรมความเครียด 6.พฤติกรรมจากสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจากมลพิษทางอากาศ น้ำ ฝุ่นละอองต่างๆ เชื่อว่าเป็นปัญหาทั่วโลก ************************************* 23 มกราคม 2551


   
   


View 14    23/01/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ