กระทรวงสาธารณสุขระดมบุคลากรสาธารณสุขจากทุกภาคส่วน เตรียมพร้อมดูแลประชาชนร่วมกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก” พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศ จัดชุดแพทย์จักรยานตามขบวนปั่น จุดปฐมพยาบาลทุก 500 เมตร และรถพยาบาลส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินตลอดเส้นทางปั่น แนะประชาชนเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนปั่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพก่อนเข้าร่วมกิจกรรม

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์รองรับกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก ที่จัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนได้แก่ แพทย์ประจำพระองค์ กองแพทย์หลวง โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลสังกัดเหล่าทัพ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลเอกชน มูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่วมกตัญญู รวมถึงจิตอาสาดูแลจัดบริการด้านการแพทย์แก่ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม“Bike อุ่นไอรัก”ให้ปลอดภัย ทั้งการปฐมพยาบาลกรณีเจ็บป่วยทั่วไป เจ็บป่วยฉุกเฉิน การส่งต่อส่งกลับโดยมีแผนการจัดการบริการสำหรับเส้นทางปั่น ดังนี้

กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบบริการทางการแพทย์ไว้รองรับ ดังนี้ 1.จัดทีมแพทย์พร้อมชุดปฐมพยาบาลประจำจุดลงทะเบียน /จุดรวมพล /จุดพักบนเส้นทางผ่านของขบวนจักรยาน ทุก 500 เมตรตลอดเส้นทาง2.จัดทีมแพทย์/พยาบาลเคลื่อนที่ปั่นตามขบวน จำนวน 60 คน พร้อมอุปกรณ์ เช่น เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ ชุดทำแผล และวิทยุสื่อสาร 3.จัดรถพยาบาลฉุกเฉินเตรียมพร้อมตลอดเส้นทางกว่า 200 คัน เพื่อการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน และส่งกลับตามเส้นทางปั่นที่ได้วางแผนร่วมกับทางตำรวจและทหารและ4.เตรียมโรงพยาบาลที่จะรับส่งต่อ พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อประสานงานการดูแลประชาชนทั้งด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในส่วนกรุงเทพมหานครให้กรมการแพทย์เป็นแกนหลักประสานการทำงานกับกองอำนวยการร่วม ส่วนภูมิภาคให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ยืนยันจะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ตามพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดบริการวัดความดันโลหิตผู้เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานทุกคนที่จุดลงทะเบียนและขอแนะนำผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเตรียมความพร้อมก่อนปั่น ดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ปั่นเป็นประจำ ผู้สูงอายุผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ควรพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และขณะปั่นหากรู้สึกเหนื่อย เพลีย ให้หยุดพักทันที และแจ้งให้ทีมแพทย์ดูแลทันที เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ต้องสวมหมวกกันน๊อคตลอดการปั่นจักรยาน พกลูกอมติดตัว ดื่มน้ำระหว่างปั่นเพื่อชดเชยเหงื่อที่เสียไปหากมีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาพกติดตัวตลอดเวลา  และไม่สร้างความเสี่ยงขณะปั่น คือไม่แซงหรือถ่ายรูปตนเอง

 ********************       5 ธันวาคม 2561

 

 



   
   


View 764    05/12/2561   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ