กระทรวงสาธารณสุข เสนอ 3 มาตรการรณรงค์ลดอุบัติเหตุจราจร ควรดำเนินการอย่างเข้มงวดทั้งปี ไม่เฉพาะช่วงเทศกาล โดยยึด 5 ยุทธศาสตร์หลัก พร้อมทั้งแนะช่วงเทศกาลควรตั้งเป้าโดยนับจำนวนคดีจับกุมการกระทำผิดที่ขึ้นศาลแทนการตั้งเป้ายอดผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต และเสนอให้ใช้เบอร์โทรแจ้งฉุกเฉินเพียง 3 หลักเหมือนต่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนจำง่าย ใช้ง่าย ส่วนเบอร์ 4 หลักให้ใช้บริการสาธารณะที่ไม่เร่งด่วน นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอมาตรการในการรณรงค์ลดอุบัติจราจรในปี พ.ศ. 2551 เพื่อให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณา ประกอบด้วย 3 มาตรการ มาตรการแรก ได้แก่ ให้หน่วยงานร่วมกันดำเนินการตามมาตรการควบคุมป้องกันอุบัติเหตุจราจรอย่างเข้มงวดตลอดปี ไม่ควรเน้นเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น โดยยึดตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ด้านวิศวกรรมจราจร ด้านการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน และด้านการติดตามประเมินผล มาตรการที่ 2 การตั้งเป้ายอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรรายจังหวัด ควรเป็นเป้าหมายรวมตลอดปี เพราะแสดงถึงความจริงจังต่อเนื่อง ไม่ควรตั้งเฉพาะในช่วงเทศกาล การตั้งเป้าในช่วงเทศกาลควรตั้งเป้าหมายจำนวนคดีที่ต้องขึ้นศาล เนื่องจากการจับกุมสาเหตุการกระทำผิด เช่นเมาแล้วขับ การขับขี่รถมอเตอร์ไซด์โดยไม่มีใบขับขี่ หรือไม่สวมหมวกกันน็อค หรือเหตุอื่น โดยอาจจะเปรียบเทียบระหว่างจำนวนคดีที่ต้องขึ้นศาลกับประชากรภายในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งจากการประเมินจำนวนผู้บาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีใหม่ 5 วันนี้ พบว่าเกือบครึ่งเกี่ยวพันกับเรื่องดื่มสุรา และส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้เสนอให้แยกเบอร์โทรสาธารณะให้ชัดเจนระหว่างเบอร์แจ้งเหตุฉุกเฉินกับบริการที่ไม่ฉุกเฉิน โดยเบอร์แจ้งเหตุฉุกเฉินทุกประเภททั้งเจ็บป่วย เพลิงไหม้ ตำรวจ ให้ใช้เลข 3 หลักเป็นเบอร์เดียวกันทั่วประเทศ ( National Emergency Call) เพื่อให้ประชาชนจำง่าย ใช้ง่าย ซึ่งขณะนี้ประเทศในแถบยุโรปใช้ 112 ส่วนที่สหรัฐอเมริกาใช้ 911 ส่วนเบอร์โทรสาธารณะอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เหตุฉุกเฉินให้ใช้เป็นเลข 4 หลัก เพราะที่ผ่านมามีเบอร์โทรฉุกเฉินเลข 4 หลักที่ใช้ในประเทศไทยมีมากถึง 14 เบอร์และยังมีเบอร์โทรอื่นๆ ที่ใช้เลข 4 หลักอีกกว่า 80 เบอร์ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและจำยาก ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ช่องทางการแจ้งเหตุกรณีการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพในช่วงเทศกาลปีใหม่ตลอด 5 วันนี้ มีทั้งหมด 12,493 สาย ในจำนวนนี้ประชาชนโทรสายตรง 1669 ไม่ถึงครึ่ง เพียง 5,830 ครั้งเท่านั้น นอกนั้นใช้ช่องทางอื่น เช่น 191 กู้ภัย หรือบางรายขับรถเข้าไปตามทีมแพทย์ที่โรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งการโทรผ่านหมายเลขอื่น อาจก่อให้เกิดความล่าช้าในการได้รับการช่วยเหลือจากทีมแพทย์ จึงต้องหาวิธีการที่ประชาชนจะเข้าถึงเบอร์โทรฉุกเฉินที่ใช้ง่ายและเร็วที่สุด นายแพทย์มงคลกล่าว ด้านแพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่เช้าวันนี้ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้จัดระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้มงวดมากขึ้น เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลทุกระดับในพื้นที่ 34 แห่ง และมีหน่วยกู้ชีพระดับพื้นฐานครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลอีก 60 หน่วย ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2550 – 2 มกราคม 2551 ทีมแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินออกให้บริการ 300 ครั้ง โดยสามารถไปถึงจุดเกิดเหตุภายใน 10 นาทีตามเป้าหมาย จำนวน 276 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 92 มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรนอนรักษาในโรงพยาบาล 115 ราย *********************** 2 มกราคม 2551


   
   


View 15    02/01/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ