กระทรวงสาธารณสุข มอบเครื่องช่วยความพิการแก่ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวและการได้ยิน ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้พิการ พร้อมจัดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการและผู้สูงอายุต่อเนื่องอีก 2 โครงการ ในปี 2551 ตั้งเป้ามอบเครื่องช่วยฟัง 6,300 เครื่อง และออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการครบวงจรทั้ง 4 ภาค ใช้งบ 20 ล้านบาท วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2550) ที่ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ จ.นนทบุรี นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นประธานพิธีมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการทางกายและเครื่องช่วยฟังแก่ผู้พิการทางการได้ยิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุครบ 80 พรรษา โดยมอบรถนั่งแบบวัดตัวตัด สำหรับเด็กและผู้พิการอัมพาตรุนแรง ซึ่งต้องออกแบบเป็นพิเศษเฉพาะตัว และรถนั่งแบบช่วยเหลือตนเองที่มีขนาดเล็กเบาสำหรับวัยหนุ่มสาว รวม 60 คัน เครื่องช่วยฟัง 4,000 เครื่อง แก่ผู้แทนโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ 61 แห่ง และมอบแขนขาเทียมแก่ผู้พิการทางกาย 20 คน นายแพทย์มงคลกล่าวว่า จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ประเทศไทยมีผู้พิการ จำนวน 1.9 ล้านคนหรือเกือบร้อยละ 3 ของประชากรทั้งหมด ในจำนวนนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนผู้พิการแล้ว 721,489 คน คิดเป็นร้อยละ 38 ของผู้พิการทั้งหมด มากที่สุดคือพิการทางกายและการเคลื่อนไหว 349,332 คน รองลงมาเป็นการได้ยินและการสื่อความหมาย 98,349 คน ด้านสติปัญญาหรือการเรียนรู้ 91,992 คน ด้านสายตา 75,562 คน พิการซ้อน 66,228 คน ด้านจิตใจ 34,959 คน และพิการอื่นๆ 5,067 คน ที่เหลืออีกร้อยละ 62 พบว่าส่วนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวและความเสื่อมของร่างกาย เช่น ข้อเข่าเสื่อม อัมพฤกษ์ อัมพาต หูหนวก หูตึง มีปัญหาทางสายตา ทำให้ไม่สามารถมาขึ้นทะเบียนได้ นายแพทย์มงคล กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้พิการทางกายและการเคลื่อนไหว และพิการทางการได้ยิน ซึ่งรวมแล้วมีมากกว่าครึ่งของผู้พิการทั้งหมด หากได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพและได้รับเครื่องช่วยความพิการที่เหมาะสม จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทัดเทียมคนปกติ มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตดีขึ้น ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ใส่เครื่องช่วยฟังแก่ผู้พิการทางการได้ยิน 8,172 ราย และจัดโครงการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ ในลักษณะหน่วยเคลื่อนที่แบบครบวงจรออกให้บริการในทุกภูมิภาค พบว่าผู้พิการพึงพอใจอย่างมาก ได้ตรวจคัดกรองประเมินความพิการและฟื้นฟูสมรรถภาพ 10,202 ราย มอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ 3,124 ราย ผลิตกายอุปกรณ์ แขน-ขาเทียม 1,503 ราย จดทะเบียนคนพิการ 1,767 ราย จึงมอบนโยบายให้มีการจัดบริการเชิงรุกแก่ผู้พิการอย่างต่อเนื่อง ด้านนายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในปี 2551 กรมการแพทย์จะจัดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการและผู้สูงอายุ ต่อเนื่องอีก 2 โครงการ ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ได้แก่ โครงการกรมการแพทย์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ ใน 4 ภูมิภาค ที่จังหวัดสุโขทัย เพชรบุรี นครศรีธรรมราช และสกลนคร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ มีการตรวจคัดกรอง จดทะเบียนรับรองความพิการทุกประเภท ฟื้นฟูสมรรถภาพ ผลิต ซ่อมแซมเขน ขาเทียม รองเท้าคนพิการ มอบอุปกรณ์ช่วยความพิการ ตรวจการได้ยินและมอบเครื่องช่วยฟัง ตรวจสายตา ทำฟัน และตรวจคัดกรองโรคข้อเข่าเสื่อม เป็นบริการฟรีทั้งหมด สำหรับโครงการสนับสนุนเครื่องช่วยฟังให้ผู้พิการและผู้สูงอายุที่มีปัญหาการได้ยิน ตั้งเป้าใส่เครื่องช่วยฟังให้กับผู้พิการ 6,300 เครื่อง โดยศูนย์สิรินธรฯ จะร่วมกับโรงพยาบาลที่มีนักตรวจการได้ยิน 61 แห่งทั่วประเทศ ให้บริการตรวจวัดการได้ยินและใส่เครื่องช่วยฟังแก่ผู้มีปัญหาด้านการได้ยินฟรี ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากบริษัทจำหน่ายเครื่องช่วยฟัง ลดราคาให้เป็นพิเศษ จากประมาณ 5,000 บาท เหลือเพียงประมาณ 1,500 บาท ทำให้สามารถช่วยผู้พิการทางการได้ยินได้มากขึ้น ***************************** 29 พฤศจิกายน 2550


   
   


View 9    29/11/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ