ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แนะผู้สัมผัสสุนัข แมว ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า รีบพบแพทย์ทันทีเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรค พร้อมขอความร่วมมือผู้เลี้ยงสัตว์ ดูแลความเป็นอยู่ อาหาร ยารักษาโรค ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี

     นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ กรณีโรคพิษสุนัขบ้า ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ดูแลรักษาผู้ที่ถูกสุนัข แมว กัดหรือข่วน รวมทั้งผู้สัมผัสกับสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า        ซึ่งโรคนี้อันตรายมาก หากเป็นแล้วไม่มียารักษา แต่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ประชาชน   ทุกคนทุกสิทธิการรักษา สามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

     ในส่วนการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์นั้น  มีหลายหน่วยงานดูแลและมีหลายมาตรการในการควบคุม   ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่มีอำนาจก้าวล่วงเข้าไปดูแลในเรื่องสัตว์  โรคพิษสุนัขบ้าเป็นปัญหาในประเทศไทยเรื้อรังมานาน  ไม่สามารถแก้ไขกันได้ภายในวันเดียวหรือสองวัน ต้องใช้หลายวิธีหลายมาตรการในการแก้ปัญหา ที่สำคัญที่สุดคือ ขอให้ประชาชนตระหนักในการจะมีสัตว์เลี้ยง ต้องสามารถดูแลให้ดี ทั้งในเรื่องความเป็นอยู่ อาหาร         ยารักษาโรค วัคซีน และไม่ควรปล่อยให้สัตว์ออกมาอยู่ภายนอกการดูแล

     “ส่วนเรื่องมาตรการการเก็บภาษีสัตว์เลี้ยงนั้น เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้มีผลใด และเป็นเพียงการยกตัวอย่างมาตรการหนึ่งที่ต่างประเทศทำ ที่มีการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง และมีเรื่องภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น กำหนดให้เลี้ยงได้ครอบครัวละ 1-2 ตัว หากเลี้ยงมากกว่าก็จะมีการเก็บภาษี ซึ่งประเทศไทย ยังไม่มีมาตรการนี้ และกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนหากมีสัตว์เลี้ยง ให้นำไปฉีดวัคซีนให้หมด หากสัมผัส หรือพบผู้ที่สัมผัส และเสี่ยงอาจได้รับเชื้อ  ให้รีบไปพบแพทย์      รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งโรคนี้ถ้ามีอาการแล้ว ทั้งคนและสัตว์ ไม่สามารถรักษาให้หายได้” นายแพทย์เจษฎา กล่าว

     สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในคน ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ที่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับเชื้อจากสุนัข เบื้องต้นได้รับรายงานว่าถูกสุนัขกัดมาค่อนข้างนานแล้ว รอผลการตรวจยืนยัน  นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่  6 ของปี 2561

                  **************************************** 19 มีนาคม 2561

 



   
   


View 37    19/03/2561   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ