หมอมรกตหนุนพัฒนา “รพ.สายใยรักแห่งครอบครัว” เพิ่มคุณภาพชีวิตและสมองเด็กไทย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หนุนสถานพยาบาลทั่วไทยเร่งสนองพระปณิธาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ สร้างสายใยรักแห่งครอบครัว ชี้นมแม่ การอุ้ม พูดคุยกับเด็กและให้เด็กเล่นของเล่น จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและกระตุ้นสมองเด็กไทย พร้อมยกมหาสารคาม เป็นตัวอย่างรณรงค์งานบุญกฐินปลอดเหล้ากว่า 800 วัด ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 46 ล้านบาท วันนี้ (16 พฤศจิกายน 2550) ที่จังหวัดมหาสารคาม นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานมหกรรมสร้างสุขภาคอีสาน จัดโดยกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อรณรงค์สร้างกระแสการสร้างเสริมสุขภาพด้วยวิถีชีวิตที่พอเพียง ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนนำไปปฏิบัติเพื่อการมีสุขภาวะที่ยั่งยืน พร้อมทั้งเยี่ยมติดตามโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวระดับตำบลและหมู่บ้าน ที่บ้านนาเลา ต.หนองไฮ อ.วาปีปทุม และโครงการกฐินปลอดเหล้า ที่บ้านหนองปลิง ต.ดงบัง อ.นาดูร นายแพทย์มรกต กล่าวว่า โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มีเป้าหมายที่จะสร้างสถาบันครอบครัวให้อบอุ่น สนับสนุนให้พ่อ แม่ ลูก ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ส่งผลให้มีจิตใจที่ดี มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาที่พบว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะกระตุ้นให้เซลล์สมองมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เด็กที่ไม่ค่อยได้รับการสัมผัสหรือพูดจาด้วย และไม่มีโอกาสเล่นของเล่น จะมีขนาดสมองเล็กกว่าเด็กรุ่นเดียวกันถึงร้อยละ 20-30 กระทรวงสาธารณสุขจึงได้สนองพระปณิธาน โดยพัฒนาโรงพยาบาลในสังกัด 864 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ตั้งเป้าผ่านเกณฑ์ระดับทอง คือมีผลการดำเนินงานตามเป้าหมายและชุมชนมีส่วนร่วม อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่งภายในปี 2550 โดยที่จังหวัดมหาสารคาม การดำเนินงานต่างๆ คืบหน้ามาก คาดว่าโรงพยาบาลมหาสารคามจะผ่านเกณฑ์ประเมินระดับทอง ภายในปี 2550 นี้ ส่วนโรงพยาบาลทุกระดับในมหาสารคาม ผ่านมาตรฐานโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ภายในปีงบประมาณ 2552 นอกจากนี้ ยังตั้งชมรมสายใยรักแห่งครอบครัวในโรงพยาบาลแห่งละ 1 ชมรม และสร้างเครือข่ายทูตนมแม่ เพื่อกระตุ้นให้สังคมเห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ขณะนี้มีทูตนมแม่แล้ว 640 คน ส่งผลให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนของจังหวัดมหาสารคาม เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16 ในปี 2545 เป็นร้อยละ 42 ในปี 2549 สำหรับในปี 2551 จะขยายเครือข่ายทูตนมแม่ให้ครอบคลุมทั้ง 13 อำเภอ อำเภอละ 1 ตำบล นำร่องแห่งแรกที่บ้านนาเลา ต.หนองไฮ อ.วาปีปทุม นายแพทย์มรกต กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการกฐินปลอดเหล้านั้น จากการสำรวจการจัดงานบุญงานกฐินที่ผ่านมาของจังหวัดมหาสารคาม พบว่ามีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์งานละ 30,000-50,000 บาท ในปีนี้ เจ้าภาพงานบุญกฐินทั้ง 871 วัดในมหาสารคาม จึงร่วมกันให้คำสัตย์ปฏิญาณว่าจะทำความดีถวายในหลวง ด้วยการทอดกฐินปลอดเหล้าตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชน ลด ละ เลิกการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภทด้วย คาดว่าตลอดช่วงที่มีการทอดกฐินตั้งแต่ 27 ตุลาคม-24 พฤศจิกายน 2550 นี้ จะสามารถลดรายจ่ายลงได้ถึง 26-43 ล้านบาท นับเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับจังหวัดอื่นๆ จะได้นำไปขยายผลดำเนินการต่อไป พฤศจิกายน ********** 16 พฤศจิกายน 2550