สธ.เร่งติดอาวุธสมองอสม. สู้ภัย “โรควิถีชีวิต” ต้นเหตุคนไทยตายปีละเกือบ แสนคน

กระทรวงสาธารณสุข เร่งอบรมเพิ่มความรู้ อสม.ทั่วประเทศรุ่นที่ 2 อีก 300,000 คน ติดอาวุธสมองสู้ภัยกับโรควิถีชีวิต ได้แก่ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง ซึ่ง 5 โรคนี้ทำให้คนไทยตายปีละเกือบ 1 แสนคน และทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตปีละ 35 ล้านคน ชี้ผลสำเร็จของอสม.รุ่นแรก สร้างสถิติโลก ช่วยคนไทยรู้ตัวว่าเป็นความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาตได้กว่า 1 ล้านคน วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2550) นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานการรวมพลังอสม. “อาสาสมัครสาธารณสุขชัยนาท 999 ดวงใจ ร่วมใจค้นหามะเร็งเต้านม” ที่วัดบ้านใหม่สิริวัฒนาราม ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท ตามโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จังหวัดชัยนาท รุ่นที่ 2 โดยมีผู้แทนอสม.จากทุกอำเภอรวม 999 คน ร่วมแสดงอุดมการณ์ในการรวมพลังรณรงค์เผยแพร่ความรู้เพื่อป้องกันโรคมะเร็งและตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมพร้อมกับทุกจังหวัดทั่วประเทศ นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีโรคใหม่เกิดขึ้น เรียกว่า โรควิถีชีวิต ซึ่งไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อโรค แต่เกิดมาจากสาเหตุการใช้วิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และกินผักผลไม้น้อย ทำให้ป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง และโรคความดันโลหิตสูง มากขึ้น ทั้งประเทศที่ร่ำรวยและยากจน ในคนไทยพบตายปีละเกือบ 1 แสนคนหรือเกือบ 1 ใน 4 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด ในระดับโลกพบว่าการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวแซงโรคติดเชื้อ เช่น โรคเอดส์ มาลาเรียไปแล้ว 2 เท่าตัว องค์การอนามัยโลกระบุว่าในปี 2548 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรควิถีชีวิต 35 ล้านคน หรือร้อยละ 60 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด 58 ล้านคน หากไม่เร่งแก้ไข คาดว่าในปี 2558 จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 หรือประมาณ 41 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งแก้ไขโดยระดมพลังความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุข ซึ่งเป็นกำลังภาคประชาชนที่มีกว่า 8 แสนคนทุกหมู่บ้าน และทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาแล้ว 29 ปี มาช่วยกันรณรงค์อย่างจริงจัง ในปี 2550 นี้ ได้อบรมเพิ่มความรู้ ยกระดับอสม.ให้เป็นอสม.เชี่ยวชาญเรื่องโรควิถีชีวิต ตั้งเป้าปีนี้ 6 แสนคน อบรมรุ่นแรก จำนวน 290,000 คนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้รณรงค์ตรวจวัดความดันโลหิตคนไทยอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวน 24 ล้านคน เมื่อวันที่ 2 – 8 กันยายน 2550 ได้เกือบ 22 ล้านคน พบเป็นโรค 2.4 ล้านคน นับว่าเป็นการค้นหาผู้ป่วยครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่มีรายงานผู้ป่วยความดันโลหิตสูงเข้ารักษาในสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 1 – 1.1 ล้านคน แสดงว่าการรณรงค์ครั้งที่ผ่านมาช่วยให้คนอีก 1.3 – 1.4 ล้านคน ได้รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้และได้รับการดูแลรักษาทันที สามารถป้องกันการเสียชีวิต หรือเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบได้ ในรุ่นที่2 จะอบรมอสม.เพิ่มอีก 3 แสนคน นายแพทย์วัลลภกล่าวต่อว่า หลังจากอบรมรุ่นที่ 2 แล้ว จะให้อสม.รณรงค์ตรวจมะเร็งเต้านมในผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ในวันที่ 25 – 30 พฤศจิกายน 2550 เนื่องจากโรคมะเร็งเต้านม พบมากอันดับ 2 ในผู้หญิง รองจากมะเร็งปากมดลูก แต่ปัญหาหลักในการรักษาพบว่า ได้ผลไม่ค่อยดี เนื่องจากร้อยละ 80 มักมาพบแพทย์ช้า เซลล์มะเร็งลุกลาม ทำให้เสียชีวิตปีละเกือบ 2,000 คน แต่หากผู้หญิงมีการตรวจเต้านมเป็นประจำทุกเดือน ก็จะพบโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ และรักษาได้ผล มีโอกาสหายขาดสูงถึงร้อยละ 80 - 90 ด้านนายแพทย์ศิริชัย ลิ้มสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ชัยนาทมีอสม. 8,000 คน ผ่านการอบรมรุ่นที่ 1 ไปแล้ว 1,515 คน และในรุ่น 2 จะอบรมเพิ่มอีก 3,030 คน ในระหว่างวันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2550 ในการรณรงค์วัดความดันโลหิตที่ผ่านมา พบผู้มีความดันโลหิตสูงร้อยละ 8 ในจำนวนนี้ร้อยละ 42 ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน การรณรงค์ในวันที่ 25 – 30 พฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมหญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปซึ่งมี 79,156 คน ได้ครบทั้งหมด ******************* 2 พฤศจิกายน 2550