โรงพยาบาลสงฆ์ร่วมมือองค์กรภาคีเครือข่ายจัดตั้ง “กุฏิชีวาภิบาล วัดไทร พระราม 3”


     โรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์ ร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและชุมชนในพื้นที่ จัดตั้ง

“กุฏิชีวาภิบาล วัดไทร พระราม 3” ซึ่งถือเป็นการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบแห่งแรกในกรุงเทพมหานคร และเป็นแห่งที่ 6 ในจำนวน 13 เขตสุขภาพเพื่อให้เป็นสถานที่ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายให้ได้รับการดูแลที่ครอบคลุมในทุกมิติของการเจ็บไข้

             นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า พระภิกษุเป็นผู้มีความสำคัญในการสืบทอดพระพุทธศาสนา พัฒนาการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม และพัฒนาสังคม ท้องถิ่น ชุมชน อันเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชุมชนในเรื่องการดูแลสุขภาพตนเองและสิ่งแวดล้อมภายในวัด และขยายผลสู่การพัฒนาสุขภาวะของชุมชน ซึ่งจากข้อมูลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประจำปี 2565 มีจำนวนวัดทั่วประเทศ จำนวน 43,564 วัด มีพระภิกษุสามเณร จำนวน 288,965 รูป และมากกว่าร้อยละ 50 เป็นพระผู้สูงอายุอาพาธด้วยโรคเรื้อรัง และประมาณร้อยละ 0.3 มีการอาพาธระยะท้าย ซึ่งพระภิกษุสงฆ์มีวัตรปฏิบัติที่แตกต่างจากฆราวาสทั่วไป เนื่องจากต้องปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และพบว่าเมื่ออาพาธ ติดเตียงหรืออาพาธระยะท้าย ท่านมีความประสงค์จะกลับวัด แต่สถานที่ที่รองรับที่จะมีความพร้อมด้วยอุปกรณ์การแพทย์มีน้อยมาก และขาดบุคลากรผู้ดูแลประจำวัดหรือเมื่อญาติรับกลับไปดูแลต่อที่บ้านก็มักจะต้องให้ท่านเหล่านั้นลาสิกขาออกไปในที่สุด ซึ่งไม่เป็นไปตามความประสงค์พระคุณเจ้าที่สละบ้านเรือนมาเป็นเวลานาน ๆ กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลสงฆ์ เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้มีการดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นสถานที่ดูแลพระภิกษุอาพาธระยะท้าย เอื้อให้พระอาพาธยังสามารถดำรงตนในพระธรรมวินัยได้ รวมทั้งเป็นการร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ให้เข้มแข็ง เพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนายั่งยืนสืบไป

  ด้านนายแพทย์อภิชัย สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์ มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการดูแลสุขภาพพระภิกษุสามเณรแบบองค์รวม จากข้อมูลสถิติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในข้างต้น

พบพระภิกษุอาพาธระยะท้ายเป็นจำนวนมาก และพบว่าเมื่อพระภิกษุอาพาธ ติดเตียง หรืออาพาธระยะท้าย ท่านมีความประสงค์

จะกลับไปรักษาตัวต่อที่วัด แต่ก็ขาดอุปกรณ์ ขาดบุคลากรผู้ดูแลประจำวัด โรงพยาบาลสงฆ์จึงได้ดำเนินโครงการจัดอบรมหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐากเพื่อให้มีความรู้ ทักษะ สามารถให้การดูแลพระอาพาธระยะท้ายได้ ซึ่งพระคิลานุปัฏฐากที่ผ่านการอบรมถวายความรู้ทั้งภาคทฤษฎี เป็นเวลา 1 สัปดาห์และฝึกภาคปฏิบัติอีก 3 สัปดาห์ ท่านก็จะมีความรู้ความสามารถในการประเมินความเจ็บไข้และใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ในเบื้องต้นได้ ปัจจุบันโรงพยาบาลสงฆ์ได้ดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบมาแล้วใน 5 เขตสุขภาพ และดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบเพิ่มอีก 1 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร คือที่วัดไทร พระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นกุฏิชีวาภิบาลแห่งแรกในกรุงเทพมหานคร โดยได้รับความร่วมมือจากคณะพระสังฆาธิการในพื้นที่ และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงเรียนวัดไทร และองค์กรภาคีเครือข่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดเป้าหมายในปี 2567 จะดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบให้ครบทุกเขตสุขภาพ เพื่อเป็นสถานที่ดูแลพระภิกษุอาพาธระยะท้ายให้ได้รับการดูแลที่ครอบคลุมในทุกมิติและเพื่อสร้างองค์กรภาคีเครือข่ายในการดูแลสุขภาพพระภิกษุอาพาธแบบประคับประคองให้ได้ในที่สุด

************************************ #กุฏิชีวาภิบาล วัดไทร พระราม 3 #พระคิลานุปัฏฐาก #อาพาธระยะท้าย

-ขอขอบคุณ- 22 เมษายน 2567

 

 

 



จากหน่วยงาน : กรมการแพทย์ เปิดดู 121 view
วันที่ประกาศข่าว : 22 เมษายน 2567 เวลา 16:36 น.