บทความสุขภาพ
เตือนนักสูบ!!! บุหรี่ไฟฟ้า อันตรายกว่าที่คิด
ท่ามกลางการระบาดโรคโควิด 19 ที่มีการพัฒนากลายพันธุ์ตามสถานการณ์ของโรคที่ต้องเฝ้าระวัง การระบาดด้วยการสร้างวัฒนธรรมพฤติกรรมการป้องกันตนเองสูงสุด (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 และการเสียชีวิตที่จะตามมา ขณะเดียวกันปัจจุบันพฤติกรรมการสูบบุหรี่ทุกประเภทในประชากรไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปก็ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่มีอันตรายไม่น้อยกว่าบุหรี่มวนทั่วไป
จากผลการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคยาสูบแบบมีควันของประชากรไทย ในปี พ.ศ. 2564 ที่บริโภคยาสูบแบบมีควันทุกประเภท จำแนกประเภทผลิตภัณฑ์ยาสูบ (สูบมากกว่า 1 ประเภทต่อคน) โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ดังนี้
ประเภทผลิตภัณฑ์ยาสูบ |
จำนวน (คน) |
ร้อยละ |
|
5,616,578 |
9.9 % |
|
4,608,837 |
8.1 % |
|
78,742 |
0.14 % |
|
14,688 |
0.03 % |
|
51,961 |
0.09 % |
ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ
จากตารางข้างต้นจะเห็นว่า คนไทยมีการสูบบุหรี่จำนวนมากขึ้นตามประเภทผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายโดย มีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในลำดับที่ 3 ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้า 1 มวน จะเท่ากับสูบบุหรี่ทั่วไปถึง 15 มวน หากมีการสูบติดเป็นประจำทุกวันจะเป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดได้
อย่างไรก็ตามยาสูบทุกชนิดทั้งบุหรี่ซิกาแรต ยาเส้น บารากู่ ซิการ์ ไปป์ บุหรี่ไฟฟ้า และยาสูบชนิดใหม่ ๆ ล้วนมีนิโคตินที่ทำให้เกิดการเสพติด และ ยาสูบทุกชนิดยังเป็น “ตัวกลาง” ในการนำส่งสารเสพติด “นิโคติน” เข้าสู่ร่างกาย อันตรายของนิโคตินนอกจากเสพติดยังกระตุ้นระบบชีววิทยาต่างๆ ของร่างกายที่สัมพันธ์ต่อการพัฒนาการของทารก สมองเด็ก และวัยรุ่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดโรคมะเร็ง และโรคต่าง ๆ ตามมามากมาย
แหล่งข้อมูล : ศาสตราจารย์ นพ.ประกิต วาทีสาทกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ผศ. ดร. ศรัณญา เบญจกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
วันที่ : 3 กุมภาพันธ์ 2565
จากหน่วยงาน : กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดดู 1652 view
วันที่ประกาศข่าว : 3 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09:32 น.
ทวีต