ข่าวในรั้ว สธ.

พิมพ์

แพทย์ผิวหนังแนะนำแผลไฟไหม้ดูแลเบื้องต้นอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ


กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง  แนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับบาดแผลไฟไหม้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บาดแผลไฟไหม้หายดีขึ้นได้และลดโอกาสในการติดเชื้อทางผิวหนัง อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับบาดแผลจากไฟไหม้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด

นายแพทย์สมศักดิ์  อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์  เปิดเผยว่า การเกิดบาดแผลจากไฟไหม้ แผลพุพอง น้ำร้อนลวก บริเวณผิวหนัง ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผิวหนังจะมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค สารเคมี รังสีต่าง ๆ รวมถึงมีส่วนในการควบคุมความชื้นและอุณหภูมิของร่างกาย มีเส้นประสาทรับความรู้สึกอยู่เป็นจำนวนมาก  สำหรับบาดแผลจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกที่บริเวณผิวหนัง สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ตามความลึกของบาดแผล คือ 1) แผลลึกระดับที่ 1 (First-degree burn) การบาดเจ็บอยู่เฉพาะที่ชั้นหนังกำพร้า เป็นชั้นผิวหนังส่วนตื้น แผลอาจมีลักษณะคล้ายผิวหนังไหม้จากการโดนแสงแดดจัด อาการที่พบ เจ็บแสบ แดง และแห้ง ไม่มีลักษณะของตุ่มน้ำให้เห็น หายได้เองภายใน 7 - 14 วัน 2) แผลลึกระดับที่ 2 (Second-degree burn) การบาดเจ็บลงลึกถึงชั้นหนังแท้ อาการขึ้นอยู่กับความลึกที่ได้รับบาดเจ็บ มักพบตุ่มน้ำ แผลถลอกร่วมด้วย การหายของแผลอาจใช้เวลามากกว่าสองสัปดาห์และมีโอกาสเกิดแผลเป็นหรือสีผิวผิดปกติตามมา 3) แผลลึกระดับที่ 3 (Third-degree burn หรือ Full-Thickness burn) ผิวหนังทุกชั้นถูกทำลายด้วยความร้อน แผลมีลักษณะแห้งแข็ง ไม่ยืดหยุ่น แผลชนิดนี้มักไม่หายเอง ต้องได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง มีโอกาสเกิดการหดรั้งหรือแผลเป็นนูนตามมาได้ค่อนข้างมาก 

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ  วิชัยดิษฐ  ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง  กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับบาดแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก คือ 1. ออกจากแหล่งความร้อนโดยเร็วที่สุด รวมถึงกำจัดแหล่งความร้อนที่จะทำให้บาดแผลลุกลามมากขึ้น เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับที่อยู่บริเวณแผล เป็นต้น 2. ล้างบาดแผลด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ เพื่อลดความร้อนและทำให้แผลเย็นลง 3. กรณีมีบาดแผลถลอก มีตุ่มน้ำ สีของผิวหนังเปลี่ยนแปลง มีบาดแผลลึก หรือมีแผลไหม้เป็นบริเวณกว้าง สามารถปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ หรือผ้าสะอาด และให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน 4. ไม่ควรทาหรือใช้สารอื่น ๆ ทาลงบนบาดแผล เช่น ยาสีฟัน ไข่ขาว น้ำปลา  เนื่องจากอาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อที่บาดแผลได้

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นปัญหาที่ควรได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วและถูกต้องตั้งแต่ระยะก่อนมาพบแพทย์ เพื่อลดโอกาสในการลุกลามของบาดแผลและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงรวมถึงเกิดการติดเชื้อผิวหนังจากบาดแผลไฟไหม้ที่เกิดขึ้นได้ นอกจากปัญหาเรื่องบาดแผลที่ต้องได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ผู้ป่วยยังมีโอกาสเกิดปัญหาอื่น ๆ เช่น การสูญเสียน้ำและเกลือแร่ของร่างกาย การติดเชื้อ และการสูดดมควันไฟ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

                                               *****************************************

#กรมการแพทย์ # สถาบันโรคผิวหนัง #แผลไฟไหม้

#แพทย์ผิวหนังแนะนำแผลไฟไหม้   6 สิงหาคม 2565

 



จากหน่วยงาน : กรมการแพทย์ เปิดดู 1149 view
วันที่ประกาศข่าว : 6 สิงหาคม 2565 เวลา 12:35 น.