ยกบริการสุขภาพจิต 4.0 ไว้ในงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย ๑๘-๒๑ กรกฎาคม นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี 

           กรมสุขภาพจิต นำเทคโนโลยีทันสมัยที่ใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของประชาชน ครอบคลุมวัยเด็กถึงวัยสูงอายุ พร้อมคัดกรองสภาวะสุขภาพจิต 6 รายการ ได้แก่ ความเครียด ซึมเศร้า ภาวะสมองเสื่อม ความสุข  ศักยภาพทางอารมณ์และจิตใจในการปรับตัว (RQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) รวมทั้งจัดรถโมบายคลายเครียดให้บริการประชนชนฟรี   ในงาน100 ปี การสาธารณสุขไทย ๑๘-๒๑ กรกฎาคม นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี 

   นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ในปี 2560 – 2561 กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลอง “100 ปี การสาธารณสุขไทยประชารัฐร่วมใจสาธารณสุขไทยก้าวหน้า” โดยกิจกรรมหนึ่งที่กำลังจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 กรกฎาคม 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี       คือการประชุมวิชาการและมหกรรมการแสดงผลงาน 100 ปี การสาธารณสุขไทย ซึ่งภายในงาน กรมสุขภาพจิต           ได้จัดบริการการดูแลสุขภาพจิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ประชาชนเข้ารับบริการฟรี ทั้งการตรวจ วินิจฉัยผู้ป่วยจิตเวชเด็ก    การกระตุ้นพัฒนาการเด็ก การคัดกรองสภาวะสุขภาพจิต 6 รายการ ได้แก่ ความเครียด ซึมเศร้า ภาวะสมองเสื่อม   ความสุข ศักยภาพทางอารมณ์และจิตใจในการปรับตัว ( RQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)  มีการแนะนำแอปพิเคชั่น  เพื่อให้ความรู้และช่วยเหลือผู้มีปัญหาด้านสุขภาพจิตสาธิตการใช้เครื่องนับเม็ดยาอัตโนมัติ ให้ความรู้เรื่องยาแก่ผู้ป่วยและญาติ  มีบริการรถโมบายคลายเครียด ที่ภายในประกอบด้วยการทำแบบประเมินคัดกรองระดับความเครียด เครื่องไบโอฟีดแบ็ค (biofeedback) ตรวจวัดระดับความเครียด เก้าอี้คลายเครียด และมุมให้บริการปรึกษาโดยนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์

      สำหรับเครื่องไบโอฟีดแบ็ค จะใช้ในกรณีผู้ที่ได้รับการคัดกรองเบื้องต้นแล้วว่ามีระดับความเครียดที่อยู่ในระดับน่ากังวล โดยการทำงานของเครื่องจะมีตัววัดมาหนีบบริเวณนิ้วชี้ด้านซ้าย เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยคนที่มีความเครียดอัตราการเต้นของหัวใจจะเต้นๆตุ้มๆต่อมๆ จากนั้นส่งสัญญาณไปยังตัวเครื่องเพื่อแปลผล  ซึ่งผู้วัดจะต้องนั่งนิ่งๆ ไม่พูดไม่คุย ผ่อนคลายเป็นเวลา 3-5 นาที และก่อนที่จะทำการวัดด้วยเครื่องนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องป้อนข้อมูลส่วนตัวของผู้วัด เช่น ชื่อ  เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด การแสดงผลจะพิมพ์ออกมาในกระดาษ ซึ่งจะมีผลที่สำคัญ 3 ส่วน ประกอบด้วย     1.ระดับความเครียด จะแสดงเป็นแถบสีไล่จากเขียว ส้ม ไปจนถึงแดง หากยังอยู่ในโซนสีเขียวแสดงว่าระดับความเครียดปกติ  โซนสีส้มระดับความเครียดปานกลาง และโซนสีแดงระดับความเครียดสูง 2.ระดับอารมณ์ แสดงผลเป็นแถบสี        ไล่ตั้งแต่สีน้ำเงิน เขียวออกฟ้า เขียว เขียวออกเหลือง ส้ม และแดง โดยหากผลอยู่ในโซนสีน้ำเงิน แสดงว่ามีอารมณ์ค่อนข้าวเฉื่อยชา แต่หากผลค่อนมาทางโซนสีแดงแสดงว่ามีอารมณ์กระตือรือร้น และ3.ระดับการทำงานและพักผ่อน แสดงเป็นกราฟแท่ง 2 สี ได้แก่ สีแดงบอกถึงระดับการทำงาน หากขึ้นสูงแสดงว่าทำงานมาก และสีน้ำเงินหากขึ้นต่ำแปลว่าพักผ่อนค่อนข้างน้อย“เมื่อผู้ที่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้นว่าน่าจะมีระดับความเครียดที่น่ากังวล ได้รับการประเมินคัดกรองเบื้องต้นอีกครั้งจากเครื่องไบโอฟีดแบ็คได้ผลเป็นเช่นไรแล้ว จะส่งต่อผู้รับการประเมินให้เข้าคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่หรือจิตแพทย์ ทั้งนี้ ภายในรถโมบายฯจะเก้าอี้คลายเครียด ซึ่งจะเป็นเก้าอี้นวดให้บริการเพื่อช่วยคลายความเครียดของผู้รับการประเมิน รวมทั้ง มีมุมดูโทรทัศน์และพักผ่อนให้คลายเครียดด้วย” รถโมบายคลายเครียด และเครื่องไบโอฟีดแบ็ค ถือเป็นนวตกรรมใหม่ในการดูแลสุขภาพจิตประชาชน ปัจจุบัน มีเพียง 2 คัน ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการพิจารณาขยายจำนวนรถมากขึ้น

นอกจากนี้ภายในงาน กรมสุขภาพจิตยังได้จัดแสดงนิทรรศการ วิวัฒนาการงานสุขภาพจิตในอดีต ได้แก่การจำลองโรงพยาบาลคนเสียจริต ปากคลองสาน วิธีการดูแลคนเสียจริต ห้องกักกัน  การควบคุมอาการรุนแรงที่เรียก “การขึ้นเสื้อ” ตัวอย่างการรักษาในสมัยก่อน รวมทั้งมีผลผลิตงานหัตถกรรมประดิษฐ์  งานทอผ้าฝีมือ  ร้านกาแฟฝีมือผู้ป่วย ไว้ให้ผู้เข้าชมงานได้ชมและชิมด้วย  จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงาน และรับบริการสุขภาพจิตฟรี อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว 

                                                                 **********************  18  กรกฎาคม 2561