รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปิดการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติ ครั้งที่ 11   พร้อมมอบเข็มเชิดชูเกียรติแก่บุคคลดีเด่นด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เผยงานการแพทย์ฉุกเฉินของไทยมีความก้าวหน้ามาก ล่าสุดสามารถผลักดัน นโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” (UCEP) ผ่านมติคณะรัฐมนตรี

 
วันนี้ (31 มีนาคม 2560) ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี  ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีปิดการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2560 พร้อมมอบเข็มเชิดชูเกียรติประเภทกิตติมศักดิ์ ประเภทสมนาคุณ และประเภทสรรเสริญ  แก่ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 581 คน
 
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติและภาคีเครือข่าย ได้สืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ที่จะให้ประชาชนชาวไทยได้มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ ดังพระราชดำรัสว่า “ถ้าคนเรามีสุขภาพเสื่อมโทรมก็จะไม่สามารถพัฒนาชาติได้ เพราะทรัพยากรที่สำคัญของประเทศชาติก็คือพลเมืองนั้นเอง” ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ ได้มุ่งมั่นที่จะดูแลประชาชนให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือการเจ็บป่วยในสภาวะปกติ
 
โดยเฉพาะงานบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน  ซึ่งเป็นงานที่ก่อกำเนิดมาจากการมีจิตอาสาของประชาชน ในรูปแบบมูลนิธิต่างๆ ด้วยการสนับสนุนของภาครัฐ  ปัจจุบันมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยมีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเป็นแกนหลัก บริหารจัดการในรูปแบบคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน  โดยภาครัฐ เอกชน ประชาชน มูลนิธิ ภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดบริการ ทำให้งานด้านนี้มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก ปัจจุบัน มีชุดปฏิบัติการฉุกเฉินทั้งหมด  8,669 ชุด ประกอบด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 5,605 ชุด  ภาครัฐ 1,947 ชุด เอกชน มูลนิธิ/สมาคม 846  ชุด เอกชน 227 ชุด และอื่น ๆ 44 ชุด  มีผู้ปฏิบัติงาน 86,105 คน และในปี 2559 มีผู้ใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ผ่านสายด่วน 1669  จำนวน 1,169,136 ครั้ง 
 
สำหรับการประชุมวิชาการครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ทางการแพทย์ฉุกเฉิน และสนับสนุนการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้พัฒนา  เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นวัตกรรมใหม่ๆ ของผู้เกี่ยวข้องกับระบบการแพทย์ฉุกเฉิน  โดยผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผู้ปฏิบัติการ ผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการแพทย์ฉุกเฉินและสาขาที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ  ทั้งในและต่างประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า  2,500  คน  มีการปาฐกถาพิเศษ การบรรยาย การเสวนา การนำเสนอและประกวดผลงานทางวิชาการ การจัดแสดงนิทรรศการผลงานเกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉิน การจัดแสดงอุปกรณ์ เครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการทางการแพทย์ 
 ********************************  31 มีนาคม 2560
 
 
 
 
 
 
 
**************************
 
 
 


   
   


View 23    31/03/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ