กระทรวงสาธารณสุข แนะนำประชาชนในพื้นที่หมอกควันภาคเหนือ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มดีขึ้น พบผู้ป่วยลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็กหญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคหัวใจ หากต้องออกนอกบ้านในพื้นที่ยังมีหมอกควันมาก ใช้ผ้าชุบน้ำปิดปากหรือใส่หน้ากากอนามัย      

   นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน(EOC) ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควัน ให้สัมภาษณ์ว่า เช้าวันนี้ (15 มีนาคม 2560) รายงานผลการตรวจค่าฝุ่นละอองในอากาศ จากกรมควบคุมมลพิษ พบค่าระหว่าง 38 - 176 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) ซึ่งเกินมาตรฐานที่มีผลกระทบต่อสุขภาพใน 3 พื้นที่ คือ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง , ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ และ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ -13 มีนาคม 2560 มีรายงานพบผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคใน 8 จังหวัดภาคเหนือ รวม 5,215 ราย ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด 3,256 ราย โรคทางเดินหายใจ 1,640 ราย โรคตาอักเสบ 163 ราย และโรคผิวหนังอักเสบ 156 ราย ซึ่งลดลงจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

   นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อว่า จากการติดตามสถานการณ์พบว่า แม้หมอกควันเริ่มเบาบางลง แต่ยังคงให้ศูนย์ปฏิบัติการฯระดับจังหวัดใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน รวมทั้ง จ.ตาก เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์หมอกควันและผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน พร้อมทั้งการให้ความรู้แก่ประชาชน ให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง แจกหน้ากากอนามัยกลุ่มเสี่ยง และการบริการประชาชน ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตของปัญหาหมอกควัน

   “หากมีค่าฝุ่นละอองในอากาศเกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยโรคทางเดินหายใจ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด จะมีอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย เช่น ระคายเคือง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก อึดอัดแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ขอความร่วมมือจากประชาชน ลดการเผาป่า เผาขยะ เพื่อลดหมอกควัน และช่วยลดการมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนได้ด้วย”นพ.สุวรรณชัย กล่าว

*****************************  15 มีนาคม 2560



   
   


View 22    15/03/2560   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ