ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการเรื่องสมุนไพร “โสม” ครั้งแรกในโลก เดือนมี.ค.50 นี้

กระทรวงสาธารณสุข แจ้งข่าวดี ก.พ.ไฟเขียวให้พยาบาลเทคนิค เปลี่ยนตำแหน่งเป็นพยาบาลวิชาชีพกว่า 9,000 ตำแหน่งแน่นอน และในเดือนมีนาคม 2550 นี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการเรื่องโสม สมุนไพรเลื่องชื่อที่คนไทยใช้เป็นยาโป๊ว ครั้งแรกในโลก เพื่อเปิดกรุวิชาการเรื่องของสรรพคุณ ข้อห้ามอันตรายของโสมอย่างถ่องแท้ และกระตุ้นให้นักวิชาการไทยได้พัฒนาการวิจัยสมุนไพรที่มีสรรพคุณใกล้เคียงโสม วันนี้ (18 ธันวาคม 2549) นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการประชุมผู้บริหารระดับสูงประจำเดือนธันวาคม 2549 ประกอบด้วย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง อธิบดีกรม เลขาธิการสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข และผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อติดตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2550 โดยมีนายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน นายแพทย์สุพรรณกล่าวว่า วาระสำคัญการประชุมในวันนี้มีหลายเรื่อง อาทิ การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลด้านสุขภาพ การแก้ปัญหายาเสพติด การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการแบบเบ็ดเสร็จ การเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา การประชุมวิชาการนานาชาติเรื่องโสม การดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม วาระแห่งชาติด้านจริยธรรม ธรรมาภิบาล และการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาคราชการ แผนการดำเนินงานของอย. ในปี 2550 การพัฒนาศักยภาพของห้องปฏิบัติการตรวจรับรองคุณภาพวัคซีนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ การปรับตำแหน่งของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบางสายงานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งที่ประชุมและมอบนโยบายผู้บริหาร เกี่ยวกับการอวยพรวันปีใหม่ว่า ให้ส่วนราชการทุกแห่งเน้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขอให้ใช้การ์ดอวยพรหรือการไหว้สวัสดีปีใหม่ แทนการมอบของขวัญ และหากจะมีการมอบของขวัญปีใหม่ ขอให้เป็นของขวัญปลอดเหล้า ปลอดเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด นอกจากนี้ ได้กำชับให้สถานบริการทุกแห่งดูแลคุณภาพบริการให้ดียิ่งขึ้น ตามเงินค่ารายหัวที่ได้รับเพิ่มขึ้นหัวละ 1,899 บาท หรือเพิ่มจากเดิม 200 กว่าบาทต่อหัว และให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขกระตุ้นให้สถานพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ดำเนินการโครงการจิตอาสาให้กว้างขวาง สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างโรงพยาบาล ชุมชน ประชาชน ให้ใกล้ชิดกัน ซึ่งจะทำให้ปัญหาการฟ้องร้องลดน้อยลง สำหรับมาตรการลดปัญหาการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ มีนโยบายให้สถานบริการรายงานข้อมูลตามความเป็นจริง เนื่องจากการรายงานตัวเลขดังกล่าวในช่วงปีที่ผ่านมาไม่ถูกต้อง การตั้งเป้าลดการตายเจ็บทำให้ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง และจะทำให้คนประมาท ได้หารือกับนายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วในวันนี้ และมีความเห็นตรงกัน โดยจะให้โรงพยาบาลทุกแห่งรายงานข้อมูลคนเจ็บคนตายมายังศูนย์นเรนทรเหมือนเดิม เพราะทั้งคนตายและคนเจ็บข้อมูลจะอยู่ที่โรงพยาบาลมากที่สุด และให้ทุกจังหวัดทุ่มเทการทำงานเพื่อลดอุบัติเหตุ ให้ดูแลการขายเหล้า เบียร์ ตามหมู่บ้านต่างๆ โดยเฉพาะที่ปั๊มน้ำมัน รวมทั้งให้จัดรถพยาบาลฉุกเฉินในจุดที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยๆ โดยเฉพาะในถนนสายรอง นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า ในเรื่องของขวัญกำลังใจบุคลากร สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขปรับเปลี่ยนสายงานของพยาบาลเทคนิค ซึ่งทั่วประเทศมีทั้งหมด 9,087 ตำแหน่ง ให้เป็นพยาบาลวิชาชีพได้ หลังจากที่ศึกษาต่อจนสำเร็จเป็นพยาบาลวิชาชีพแล้ว โดยไม่ต้องนำตำแหน่งว่างมายุบรวม ในเบื้องต้นนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะทยอยปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้วจำนวน 2,890 ตำแหน่ง ส่วนที่เหลืออีก 6,197 ตำแหน่ง จะดำเนินการปรับเปลี่ยนให้หลังสำเร็จการศึกษาเช่นกัน นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า สำหรับในปีหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการนานาชาติ เรื่องโสมคนและโสมซานซี ซึ่งเป็นการประชุมเรื่องโสมครั้งแรกในโลก เนื่องจากโสมเป็นสมุนไพรเลื่องชื่อ ราคาแพง และมีรูปร่างคล้ายคน ที่ประชาชนไทยรู้จักกันมานาน ในเรื่องของสรรพคุณบำรุงร่างกาย ซึ่งในตำรายาพระโอสถนารายณ์ของไทยได้พบยาชื่อ ยิงสม ในตำรับยาขนานที่ 11 ปรุงถวายโดยขุนประสิทธิ์ โอสถจีน ซึ่งก็คือสมุนไพรโสมนั่นเอง โดยขณะนี้การใช้โสมส่วนใหญ่ใช้เป็นยาเสริมพลังร่างกาย หรือยาโป๊ว เป็นยาเสริมพลังซี่ สำหรับคนที่มีร่างกายอ่อนเพลียหรือผู้ป่วยระยะสุดท้าย แต่ในศาสตร์การแพทย์แผนจีน การใช้โสมในการบำรุงร่างกายมีที่ใช้เฉพาะ และห้ามใช้ในรายที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง การใช้ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อไม่ให้เกิดโทษแก่ร่างกาย ประการสำคัญ เนื่องจากโสมมีราคาแพง โดยเฉพาะโสมที่ขึ้นตามธรรมชาติ มีราคาสูง จึงทำให้เกิดการปลอมแปลงโสมธรรมชาติในตลาดยา ซึ่งพบมีการหลอกลวงในตลาดยาอยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องให้ความรู้คนไทยและผู้บริโภคให้รู้เท่าทัน ขณะเดียวกันจะได้พัฒนาองค์ความรู้ เพื่อยืนยันสรรพคุณทางยาของโสมตามแนวทางวิทยาศาสตร์ต่อไป ทั้งนี้ นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำคณะไปดูงานที่เขตเวินซาน มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ในช่วงกลางปี 2549 นี้ พบว่าที่นั่นมีพืชตระกูลโสมพันธุ์หนึ่งชื่อโสมชานซี (Panax Notoiginseng Burt) หรือที่เรียกว่าโสมใต้ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในเขตเวินซานของจีน และได้มีการนำมาใช้ในวงการยาจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก ได้แก่ ยูนนาน ไบเย๋า (Yunnan Baiyao) เป็นยารับประทานที่ใช้ในการห้ามเลือดที่เกิดจากเลือดออกภายในร่างกาย และยา เปียน ซี่ หวั่ง (Pian Zhi Wang) เป็นยากระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำดีในตับ ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่ออีกว่า การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ในเดือนมีนาคม 2550 นี้ โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสำนักงานเขตเวินซาน มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เพื่อนำเสนอรายละเอียดทางวิชาการของสมุนไพรโสมและโสมซานซีจากนานาชาติ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนและผู้ประกอบการต่างๆ ในการใช้สมุนไพรดังกล่าว เพื่อสร้างประโยชน์ต่อสุขภาพประชาชนอย่างถูกต้อง ตามหลักวิชาการทางการแพทย์ และร่วมกันวางแผนพัฒนาโสมคนและโสมซานซี ให้เป็นไปตามมาตรฐานการปลูก การตรวจสอบสาระสำคัญ และการผลิต เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค นอกจากนี้จะเป็นโอกาสแก่นักวิชาการไทยในการนำเสนอสมุนไพรที่มีสรรพคุณใกล้เคียงกับโสมด้วย ****************************** 18 ธันวาคม 2549