"คอลลาเจน" เลือกใช้ให้ถูกวิธี


          สาว ๆ ที่กำลังคลั่ง "ความขาว-เต่งตึง-สวยใส" คงไม่มีใครไม่รู้จัก และไม่คุ้นเคยกับ "คอลลาเจน"          เพราะปัจจุบันในท้องตลาด มีผลิตภัณฑ์ความงามที่โฆษณาว่าทำมาจาก "คอลลาเจน" โดยเฉพาะ "คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก" ให้เลือกสรรมากมาย          โฆษณาชวนเชื่อ บอกสรรพคุณโดดเด่น ผู้บริโภคหลงเชื่อ ซื้อมาบริโภคกัน โดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ที่แท้จริงของ "คอลลาเจน"

 
          ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง และคณะกรรมการอำนวยการ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการรับประทานคอลลาเจน ว่า   คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง  พบมากที่เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน  เช่น เส้นเอ็น หลอดเลือด   เป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 75 ของผิวหนัง  มีหน้าที่ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่นกับอวัยวะ
 
          โครงสร้างของคอลลาเจนมีลักษณะเป็นพันเกลียว 3 สาย แล้วพันทับกันอีกหลาย ๆ ชั้น ในส่วนไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolysed collagen) จะเป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยบางส่วน มีหลาย ๆ ชื่อ เช่น เจลาติน (collagen hydrolysate) คอลลาเจนเป็ปไทด์ เป็นต้น
 
          รูปแบบของกระบวนการผลิตคอลลาเจน โดยทั่วไปจะใช้กรรมวิธีนำเอาหนังสัตว์มาแช่ในน้ำปูนประมาณ 3 เดือน ล้างเอาปูนออกด้วยน้ำ ทำการต้ม ทำให้แห้งแล้วบด
 
          ปัจจุบันมีการโฆษณาตามสื่อว่า การดื่มหรือรับประทาน คอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยบางส่วนแล้ว (collagen hydrolysate) จะสามารถดูดซึมเข้าไปในร่างกายโดยไม่ผ่านกระบวนการย่อยในทางเดินอาหารอีก แล้วเข้าไปเสริมสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนัง
 
          แต่จากการวิจัยยังไม่สามารถตรวจคอลลาเจนที่รับประทานเข้าไปได้โดยตรง แต่อาศัยการตรวจกรดอะมิโนหรือเป็ปไทด์ซึ่งพบใน ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน เป็นหลัก
 
          ดังนั้นจึงไม่เคยพิสูจน์ได้จริงว่าคอลลาเจนที่ดื่มเข้าไปถูกดูดซึมโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการย่อย
 
          มีการวิจัยในสัตว์ทดลองชี้ให้เห็นว่า การรับประทานเป็ปไทด์ ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนเพียงสองตัว มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่ยังคงเป็นเป็ปไทด์อยู่  ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 95 ถูกย่อยจนหมด ดังนั้นการรับประทานคอลลาเจนเกือบทั้งหมดจะถูกย่อยก่อนดูดซึมในรูปของ กรดอะมิโน
 
          อาหารที่มีคอลลาเจนสูง จะพบมากในหนังสัตว์และเอ็น ดังนั้น อาหารที่ทำจากเอ็น เช่น คากิ หรือเอ็นตุ๋น จะเป็นอาหารที่อุดมด้วยคอลลาเจน แต่จะต้องผ่านการเคี่ยวให้เปื่อยนุ่มร่างกายจึงจะย่อยได้ดี
 
          ส่วนอาหารสำเร็จรูปที่มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักได้แก่ เยลลี่ และ เจลาติน
 
          และเนื่องจากคอลลาเจนมีโมเลกุลใหญ่มาก จะต้องผ่านกระบวนการย่อยก่อนแล้วกลายเป็นกรดอะมิโน จึงจะดูดซึมได้  ดังนั้นคอลลาเจนจึงไม่สามารถผ่านผิวหนังได้เลย ทำได้อย่างมากก็แค่เคลือบผิวหนังด้านบนเท่านั้น การนำคอลลาเจนชนิดทามาใช้เสริมความงาม  คอลลาเจนจะทำหน้าที่เคลือบผิว เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื่นเท่านั้น
 
          การฉีดสารคอลลาเจน เมื่อก่อนจะใช้คอลลาเจนจากวัวมาฉีดเป็นสารเติมเต็ม แต่เนื่องจากมีการแพ้สูง ปัจจุบันไม่มีการฉีดคอลลาเจนจากวัวแล้ว
 
          อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังคงเห็นมีโฆษณาขายคอลลาเจนให้กับสาว ๆ ที่อยากขาว อยากเต่งตึง อยากสวยใส โดยมีหลากหลายผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้
 
          สำหรับเรื่องนี้ ดร.นพ.เวสารัช กล่าวว่า "มีงานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการรับประทานคอลลาเจนจำเพาะยี่ห้อ อาจทำให้ผิวดีขึ้น เช่น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นและลดริ้วรอยที่เกิดตามวัย ทั้งนี้ ไม่เคยมี งานวิจัยว่า คอลลาเจนจำเพาะยี่ห้อจะทำให้ริ้วรอยดีขึ้นกว่าการรับประทานคอลลาเจนจากอาหารทั่วไปที่มีราคาถูก"


จากหน่วยงาน : เดลินิวส์(22 เมย.57) เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 24 เมษายน 2557 เวลา 22:55 น.