ผลสำรวจกลุ่มเยาวชน มีพฤติกรรมการป้องกันตัวเอง เพิ่มขึ้น
จากผลการสำรวจการเฝ้าระวังตามสถานการณ์ เรื่องการป้องกันตัวและความคิดเห็นของประชาชนไทยในช่วงการแพร่ระบาดระรอกใหม่ของโรคโควิด 19 รอบวันที่ 1 - 15 เมษายน 2564 (ครั้งที่ 5) ของโรคโควิด 19 โดยกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพร่วมกับสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP Thailand) โดยดำเนินการสำรวจกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 15 - 25 ปี อย่างต่อเนื่อง พบว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนตอบแบบสอบถาม จำนวน 7,025 ราย โดยภาพรวมมีพฤติกรรมการป้องกันตัวเองเมื่ออยู่บ้านหรือออกจากบ้าน (COVID-19 preventive behavior index) ที่ทำเป็นประจำในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อน ดังนี้
การสำรวจเปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันตัวเองของกลุ่มเยาวชน ใน 2 ช่วงระยะเวลาต่อเนื่องกัน
ช่วงระยะเวลาวันที่ทำการสำรวจ |
พฤติกรรมการ ใส่หน้ากากผ้า/อนามัยเป็นประจำ (ร้อยละ) |
พฤติกรรม การล้างมือบ่อยๆ เป็นประจำ (ร้อยละ) |
พฤติกรรมการเว้นระยะห่าง เป็นประจำ (ร้อยละ) |
N = จำนวนกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ตอบแบบสอบถาม (คน) |
16 - 31 มี.ค. 2564 |
65.9 |
47.2 |
29.5 |
25,557 คน |
1 – 15 เม.ย. 2564 |
71.8 |
53.4 |
35.0 |
7,025 คน |
จากสถานการณ์การระบาดโควิด 19 ระลอก 3 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ผลการสำรวจจะเห็นได้ว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนให้ความร่วมมือมีพฤติกรรมป้องกันตัวเองจากโรคโควิด 19 ตามมาตรการป้องกันที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเพิ่มขึ้นจากการสำรวจเปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันตัวเองครั้งล่าสุด โดยกลุ่มเยาวชนมีพฤติกรรมการใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยเป็นประจำเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 65.9 เป็นร้อยละ 71.8 พฤติกรรมการล้างมือบ่อย ๆ เป็นประจำเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 47.2 เป็นร้อยละ 53.4 และพฤติกรรมการเว้นระยะห่างเป็นประจำเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29.5 เป็นร้อยละ 35.0 แม้จะเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นไม่มากแต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่กลุ่มเด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงพฤติกรรมการป้องกันตัวเองเพิ่มขึ้นตามมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข
อย่างไรก็ตาม ขอฝากลูกหลาน ทั้งวัยเรียน วัยทำงาน ที่ในครอบครัวมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ร่วมบ้านอย่าประมาท หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด พยายามเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย และเมื่อออกจากบ้าน โดยเฉพาะเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงแออัด ต้องระมัดระวังปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเข้มข้น เพื่อความปลอดภัยของตนเองและสมาชิกทุกคนในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติทั่วไป 5-7 เท่า จึงขอให้ประชาชนยกระดับมาตรการป้องกันตนเอง DMHTTA โดยเคร่งครัด
D-M-H-T-T-A คือ เว้นระยะห่าง-สวมหน้ากากทุกครั้ง-ล้างมือบ่อยๆ-ตรวจวัดอุณหภูมิ-ตรวจเร็วควบคุมไว-ไปไหนสแกนไทยชนะ
แหล่งข้อมูล : กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ : 26 เมษายน 2564