คัน คัน คัน เป็นกลาก หรือเกลื้อนกันแน่นะ


 อาการคันที่เกิดจากเชื้อราตามผิวหนังต่าง ๆ ที่ผู้ใหญ่มักจะบอกกับเราว่าเป็นโรคกลากเกลื้อนแต่ความจริงแล้ว กลาก กับ เกลื้อน มีสาเหตุจากเชื้อราคนละตัว แล้วเราจะแยกออกได้อย่างไรว่าเป็นกลาก หรือเกลื้อน กันแน่นะ

          กลาก เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes เชื้อของกลากเป็นโรคติดต่อ สามารถติดต่อจากคนไปสู่คน จากสัตว์สู่คน หรือจากสิ่งแวดล้อมไปสู่คนได้

          มีปัจจัยที่ทำให้เกิดได้หลายอย่าง เช่น ภูมิคุ้มกันต่ำ อยู่ในบริเวณที่อับชื้น โดยสามารถเกิดได้หลายตำแหน่งของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรด ปลายเท้า

          อาการของกลาก  มักมีอาการคัน ผื่นเป็นผื่นสีแดง มีขอบเขตชัดเจน มีรูปร่างเป็นวงกลมหรือวงแหวน  ขอบภายนอกมักมีสีเข้มกว่าผิวหนังด้านใน  ถ้าลุกลามขยายออกมากขึ้นจะเห็นผื่นรูปวงแหวนมีขอบเขตชัดเจนยิ่งขึ้น อาจจะพบขุย สะเก็ดลอกบาง ๆ ที่ขอบวงแหวนได้

  การรักษา 1. ยาทาภายนอก เช่น Benzoic acid, Whitfield’s ointment

               2. ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน

          เกลื้อน เกิดจากเชื้อรา Malassezia furfur ซึ่งเป็นเชื้อราประจำถิ่นที่อาศัยอยู่บนผิวอยู่แล้ว โดยหากมีปัจจัยมากระตุ้นเช่น สภาพอากาศร้อน มีเหงื่อออกมาก ภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะเกิดโรคขึ้นได้ โดยมักพบบริเวณ หน้า ต้นคอ หน้าอก และหลัง

          อาการของเกลื้อน ลักษณะผื่นจะพบเป็นวงเล็ก ๆ หรือวงแหวนมีสีน้ำตาล หรือสีขาวจาง ๆ ขอบเขตค่อนข้างชัดเจน มักจะมีขุย หรือสะเก็ด แต่บางคนอาจไม่พบขุย หรือเศษของผิวหนัง อาจพบเพียงรอยด่างบริเวณผิวหนัง

        การรักษา 1. ยาทาภายนอก เช่น Selenium sulfide เป็นต้น

                     2. ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน

          โดยหากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ก่อนรับประทานหรือทายา แนะนำให้ไปพบแพทย์ หรือเภสัชกร

          สำหรับการป้องกันกลาก และเกลื้อนนั้นก็แสนง่าย คือต้องหมั่นรักษาความสะอาด อย่าปล่อยให้ผิวหนังอับชื้น ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี แค่นี้เราก็ห่างไกลจากโรคกลาก และเกลื้อนแล้ว

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านวิเคราะห์และประมวลข่าวสาร สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16:02 น.