PBA คืออะไร รู้จักภาวะควบคุมการหัวเราะ-ร้องไห้ไม่ได้ โรคที่โจ๊กเกอร์เป็น


PBA ต่างจากไบโพลาร์ หรือโรคซึมเศร้า อย่างไรอาการหัวเราะทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกขำ หรือร้องไห้ออกมาทั้งที่ก็ไม่ได้เศร้า แบบนี้เรียกภาวะ PBA ที่อาจไม่ใช่อาการทางจิต แต่อาจเกิดจากโรคทางกายที่ผู้ป่วยเป็น มาทำความรู้จักกันว่า PBA คืออะไร

 

     

 

PBA เกิดจากอะไร

            สาเหตุของโรค PBA เชื่อกันว่าเกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนหน้า (Prefrontal cortex) ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงของโรค ดังนี้
          - การบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะ ซึ่งอาจกระทบกับการทำงานของสมองส่วนหน้า (Prefrontal cortex)
          - โรคหลอดเลือดสมองตีบ แตก หรืออุดตัน (Stroke)
          - โรคความจำเสื่อมและโรคพาร์กินสัน
          - เนื้องอกในสมองบางชนิด
          - โรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis)


PBA อาการเป็นยังไง
          * ร้องไห้หรือหัวเราะอย่างรุนแรง และควบคุมไม่ได้
          * การร้องไห้หรือหัวเราะนั้นไม่เข้ากับสถานการณ์ และส่วนมากผู้ป่วยไม่ได้รู้สึกอย่างที่แสดงออกจริง ๆ
          * การแสดงสีหน้าไม่ตรงกับอารมณ์
          * อาการเป็นอย่างยาวนานเกินกว่าที่คาดไว้
          * มีอาการได้หลายครั้งต่อวัน

          อย่างไรก็ตาม จากสถิติทางการแพทย์พบว่า ภาวะ PBA แบบร้องไห้พบได้บ่อยกว่าแบบหัวเราะ และในบางคนอาจเจอภาวะ PBA ทั้งแบบร้องไห้และหัวเราะเลยก็ได้ แต่เคสนี้ก็พบได้ไม่บ่อยนัก

 
  
 
PBA รักษาอย่างไร
          การรักษาภาวะ PBA สามารถทำได้ ดังนี้
          1. พบแพทย์และอธิบายอาการกับแพทย์อย่างละเอียด เพื่อที่แพทย์จะได้แยกโรคระหว่าง PBA กับโรคทางอารมณ์อื่น ๆ เช่น โรคซึมเศร้า หรือไบโพลาร์ได้
          2. ทำไดอารี่บันทึกช่วงเวลาที่มีอาการ
          3. รักษาด้วยยา ที่อาจช่วยให้อาการ PBA บรรเทาลงได้ จนผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ป่วย PBA ดูแลตัวเองอย่างไรดี
          ภาวะ PBA เป็นภาวะความผิดปกติที่สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตให้ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ผู้ป่วยหลายคนจึงมักจะเก็บตัวเงียบ เพราะไม่อยากไปร้องไห้ หรืออยู่ ๆ ก็หัวเราะในที่สาธารณะ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกแปลกแยก ไม่อยากเข้าสังคม และอาจนำมาซึ่งปัญหาทางด้านอารมณ์ได้ ดังนั้นหากป่วย PBA ควรดูแลตัวเอง ดังนี้
          1. พูดคุยกับคนในครอบครัวให้เข้าใจภาวะ PBA ที่เราเป็น
          2. เมื่อมีอาการ สามารถใช้วิธีปรับเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อลดอาการได้ เช่น จากนั่งอยู่ก็ให้ลุกเดิน เดินอยู่ก็ให้นั่ง เป็นต้น
          3. ฝึกหายใจเข้า-ออก อย่างช้า ๆ
          4. ฝึกการผ่อนคลายในทุก ๆ วัน
          5. พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และพยายามอย่าขาดยา

 
          แม้อาการ PBA จะเหมือนผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต แต่อย่างที่บอกว่า PBA ส่วนใหญ่จะเกิดจากความผิดปกติของการทำงานของสมองส่วนหน้า ที่ทำให้ผู้ป่วยควบคุมการหัวเราะหรือร้องได้ไม่ได้ ซึ่งจะต่างจากโรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์ ที่เกิดจากสารเคมีในสมองเปลี่ยนไป และผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์มักจะแสดงอารมณ์ได้ตรงกับที่รู้สึก คือ เศร้าก็ร้องไห้ สุขก็หัวเราะ และยังสามารถควบคุมการหัวเราะหรือร้องไห้ของตัวเองได้ ต่างจากผู้ป่วย PBA ที่ควบคุมอาการหัวเราะหรือร้องไห้ของตัวเองไม่ได้เลย

          นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าหรือไบโพลาร์ส่วนใหญ่ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยังไปทำงานได้ ไปเรียนได้ ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ ในขณะที่ผู้ป่วยโรค PBA อาจมีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะผู้ป่วยจะร้องไห้โฮออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ได้ หรือจะระเบิดเสียงหัวเราะจนทำให้คนรอบข้างแตกตื่นขึ้นมาเมื่อไรก็ไม่รู้ เป็นต้น

          
หากมีภาวะผิดปกติเกิดขึ้นกับเราหรือคนใกล้ตัว ทางออกที่ดีที่สุดคือเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและหาวิธีรักษาต่อไป เพื่อบรรเทาอาการหรือรักษาให้หาย เราจะได้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ


 
-----------------------------------------------------------------------------------------------
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก   -  สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณุสข
    mayoclinic

และ เว็บไซต์ https://health.kapook.com
 
 
 


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านวิเคราะห์และประมวลข่าวสาร สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 25 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13:36 น.