สธ.หนุนการพัฒนาศักยภาพแพทย์ด้วย “เวชศาสตร์วิถีชีวิต” ปรับพฤติกรรมสุขภาพ ลดป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง


         ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ปี 2566 มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ด้วย “เวชศาสตร์วิถีชีวิต” หรือ Lifestyle Medicine สร้างเสริมสุขภาพปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างเป็นระบบ ทั้งการลด ละ เลิก บุหรี่ สุรา สารเสพติด การบริโภคอาหาร กิจกรรมทางกาย การนอนหลับ ช่วยป้องกัน/ลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และช่วยให้ผู้ที่ป่วยแล้วควบคุมอาการได้ ปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษาของแพทย์ดีขึ้น

         วันนี้ (18 มีนาคม 2566) ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566 เรื่อง “New Era of Preventive Medicine in Genomic Medicine” พร้อมบรรยายเรื่อง อนาคตงานเวชศาสตร์ป้องกันของประเทศไทย ว่า การมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม ทั้งการรับประทานอาหารหวาน มัน เค็ม มีกิจกรรมทางกายน้อย ดื่มสุรา สูบบุหรี่ นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งถือเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นภาระในการดำเนินชีวิตทั้งของผู้ป่วยและบุคคลใกล้ชิด การลดปัญหา
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยหลักยังคงเป็นการปรับพฤติกรรมสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมี “เวชศาสตร์วิถีชีวิต” หรือ
Lifestyle Medicine ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสุขภาพ โดยปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างเป็นระบบซึ่งจะช่วยป้องกันและลดโอกาสเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมถึงช่วยให้ผู้ที่ป่วยอยู่แล้วสามารถควบคุมอาการให้อยู่ในระดับคงที่ได้ และยังมีหลักฐานว่าช่วยสนับสนุนให้ผู้รับบริการปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษาของแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น

         นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิดในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ให้สามารถบริหารจัดการปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อและโรคติดต่อได้ โดยมีนโยบายพัฒนากําลังคนด้านสุขภาพเพื่อให้บริการประชาชนในชุมชน เช่น การสนับสนุนให้มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเป็นผู้ให้บริการหลักในระบบบริการปฐมภูมิร่วมกับทีมบริการสุขภาพ ช่วยให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้ในชุมชน ลดภาระการให้บริการในโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังเน้นการให้คำแนะนําแก่ผู้ป่วยหรือผู้รับบริการเพื่อส่งเสริมการปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในชุมชนของตน และสอดคล้องกับหลักการให้บริการด้วยเวชศาสตร์วิถีชีวิต ได้แก่ การลด ละ เลิก บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ถูกสุขลักษณะ การมีกิจกรรมทางกาย การนอนหลับ และการส่งเสริมสุขภาพ พร้อมพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร/การถ่ายทอดความรู้ ให้มีประสิทธิภาพในการจัดการพฤติกรรมสุขภาพไม่พึงประสงค์ที่จะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพในอนาคต ซึ่งการจัดประชุมวิชาการครั้งนี้ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมการสร้างบุคลากรทางการแพทย์ที่สามารถทำงานด้านการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมปัญหาและรักษาผู้ป่วยด้วยโรคที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมสุขภาพ และยังเป็นโอกาสดีที่ทุกภาคส่วนจะได้ทำความเข้าใจและให้ความสำคัญในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น

         ด้าน นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานประชุมวิชาการฯ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมอนามัย
กรมสุขภาพจิต และสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย เนื่องจากตระหนักถึงการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และให้ความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างเป็นระบบ สำหรับศาสตร์เวชศาสตร์วิถีชีวิต จะว่าด้วยเรื่องการสร้างวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี การบริโภค การบริหารความเครียด
การนอนหลับ การคุมน้ำหนัก การฝึกสมาธิ การบำรุงรักษาร่างกาย และการลดละเลิกสิ่งเสพติด ซึ่งส่งผลต่อปัญหาสุขภาพในอนาคต

 ******************************************** 18 มีนาคม 2566


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 18 มีนาคม 2566 เวลา 10:42 น.