สธ.แจง ชะลอจัดสรรงบส่งเสริมป้องกันโรคให้หน่วยบริการเฉพาะกลุ่มนอกสิทธิบัตรทอง แต่ประชาชนทุกสิทธิยังได้รับบริการตามปกติ


          รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แจง ประเด็นชะลอการลงนามจัดสรรงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคสำหรับประชาชนที่อยู่นอกสิทธิบัตรทอง 5,146.05 ล้านบาท เป็นไปตามมติบอร์ด สปสช. ที่ให้รอการตีความทางกฎหมาย แต่การให้บริการประชาชนยังดำเนินการได้ตามปกติทุกสิทธิ

          วันนี้ (9 มกราคม 2566) นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการกล่าวอ้างถึงการชะลอลงนามหลักเกณฑ์จัดสรรงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพ งบส่งเสริมป้องกันโรค (PP) รวม 5,146.05 ล้านบาท ทำให้ประชาชนเข้าถึงยาเอชไอวีลำบาก ว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ถูกต้อง สาเหตุที่ยังไม่ได้มีการลงนามจัดสรรเป็นเพราะงบ PP เฉพาะในส่วนที่นำไปให้บริการประชาชนกลุ่มที่อยู่นอกเหนือจากสิทธิบัตรทองอาจจะเป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย ในช่วงแรกของปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและหน่วยบริการ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึงมีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 เห็นชอบประกาศหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารกองทุนฯ ปี 2566 จัดสรรงบผู้ป่วยนอก (OP) ผู้ป่วยใน (IP) และงบสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) เฉพาะสิทธิบัตรทอง ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณที่ถูกต้องตามกฎหมายออกมาก่อน ดังนั้น การบริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคในส่วนของประชาชนสิทธิบัตรทองจึงดำเนินการได้ตามปกติ ไม่มีข้อติดขัดใดๆ

          สำหรับงบ PP นอกสิทธิบัตรทอง 5,146.05 ล้านบาท ต้องขอให้รอความชัดเจนในการตีความทางกฎหมายจากคณะกรรมการกฤษฎีกาและคณะรัฐมนตรีก่อน โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการ 7x7 ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ย้ำให้ทุกหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจัดบริการด้านสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคครอบคลุมประชาชนทุกคนทุกสิทธิตามปกติไปก่อน ส่วนหน่วยบริการนอกสังกัด ทาง สปสช.ได้ประสานให้ดำเนินการตามปกติ เพื่อไม่ให้มีช่องว่างหรือส่งผลกระทบในบริการกับประชาชนเช่นเดียวกัน โดยอาศัยมติคณะรัฐมนตรีตามที่เคยได้ดำเนินการเรื่องนี้มา 20 ปี เป็นข้อสนับสนุน

          “ยืนยันว่า ประชาชนหรือผู้รับบริการ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิหลักประกันสุขภาพฯ ซึ่งไม่มีปัญหาใดในเรื่องนี้ รวมถึงสิทธิข้าราชการและสิทธิประกันสังคมที่อยู่ระหว่างรอความชัดเจนทางกฎหมาย ยังได้รับการดูแลด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคตามมติบอร์ด สปสช.และมติคณะกรรมการ 7x7 โดยกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช.จะร่วมกันดำเนินการในรายละเอียด และติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเข้ารับบริการของประชาชน” นพ.พงศ์เกษมกล่าว

********************************************  9 มกราคม 2566


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 9 มกราคม 2566 เวลา 14:06 น.