ปลัด สธ. ลงพื้นที่ ยะลา/ปัตตานี วางมาตรการรับมือผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าควบคุมสถานการณ์ได้ใน 1-2 เดือน


          ปลัดกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่ จังหวัดยะลา/ปัตตานี ติดตามสถานการณ์โควิด 19 หลังเขตสุขภาพที่ 12 มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ให้เข้มมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคทั้งมาตรการส่วนบุคคล สังคม การตรวจ ATK และเพิ่มการฉีดวัคซีน ตั้งเป้าควบคุมสถานการณ์ได้ใน 1-2 เดือน

          วันนี้ (5 ตุลาคม 2564) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดยะลา และปัตตานี พร้อมด้วย นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่เพิ่มสูงขึ้น และมาตรการควบคุมโรค โดยนายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด 19 ในเขตสุขภาพที่ 12 โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา พบว่าเขต 12 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 -2,000 รายต่อวัน จากไวรัสสายพันธุ์เดลต้า สวนทางกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อของประเทศที่เริ่มลดลง สาเหตุหลักจากการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในบ้านและชุมชน ไม่พบการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ จึงได้เน้นย้ำให้พื้นที่เตรียมมาตรการควบคุมโรคที่ชัดเจน ที่ทั้งมาตรการส่วนบุคคล สื่อสารให้ประชาชนป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) มาตรการสังคมโดยใช้กลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้ลดการรวมกลุ่ม, ตั้ง COVID-19 Free Setting Area, ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต้องเข้าถึงการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK เพื่อจะได้ทราบผลเร็ว แยกผู้ป่วยออกจากชุมชนได้เร็ว และให้โรงพยาบาลเตรียมเตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงอาการหนักทั้ง ICU โควิด, หอผู้ป่วยโควิด, ห้องความดันลบ, จัดหาเครื่องผลิตออกซิเจนเพิ่มขึ้น และให้เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้รองรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ และอาการน้อย เตรียมระบบ HI/CI ไว้รองรับหากมีจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงกระบวนการรักษาได้เร็วขึ้น รวมถึงเร่งรัดการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงให้มีความครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดป่วยหนัก ลดเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งยา และเวชภัณฑ์ไปยังเขตสุขภาพที่ 12 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ 1,000,000 เม็ด, ชุดตรวจ ATK 20,000 ชุด, Oxygen concentrator 100 เครื่อง, วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 25,000 โดส และวัคซีนไฟเซอร์ 100,000 โดส เพื่อรองรับการป้องกันควบคุมโรค และเตรียมการรักษาในพื้นที่

          ด้านนายแพทย์สุเทพกล่าวว่า ได้ตั้งเป้าหมายควบคุมสถานการณ์ในเขตสุขภาพที่ 12 ให้ได้ภายใน 1- 2 เดือน โดยลดจำนวนผู้ติดเชื้อประมาณ 10% ต่อสัปดาห์ สำหรับการเตรียมการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ขณะนี้ จังหวัดยะลามีเตียงรองรับในโรงพยาบาลรัฐ 9 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง รวม 1,162 เตียง เป็นเตียงผู้ป่วยสีแดง 86 เตียง และผู้ป่วยสีเหลือง 1,076 เตียง มีโรงพยาบาลสนามแล้ว 9 แห่ง รวม 2,385 เตียง ส่วนจังหวัดปัตตานีมีเตียงผู้ป่วยโควิด 19 รวม 4,100 เตียง เป็นโรงพยาบาลชุมชน 647 เตียง โรงพยาบาลทั่วไป 216 เตียง ฮอสพิเทล 3 แห่ง 557 เตียง โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง 58 เตียง โรงพยาบาลทหาร 1 แห่ง 10 เตียง และโรงพยาบาลสนามอำเภอ 2,612 เตียง โดยได้ยกระดับโรงพยาบาลสนามให้สามารถดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและให้ออกซิเจนได้เช่นเดียวกับโรงพยาบาลบุษราคัม สำหรับภาพรวมทั้งเขตสุขภาพ ขณะนี้ใช้เตียงผู้ป่วยกลุ่มสีแดงไปแล้ว 80% สีเหลืองและเขียว 70-80% คาดว่ายังสามารถรองรับผู้ป่วยได้ และหากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจะสามารถส่งต่อและดูแลได้ภายในเขตสุขภาพ

 *********************************** 5 ตุลาคม 2564

******************************************


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 5 ตุลาคม 2564 เวลา 18:14 น.