ปลัด สธ.เผยได้รับวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม 1 ล้านโดส


             ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและในฐานะประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม เผยได้รับวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม 1 ล้านโดส จะจัดหาเพิ่มเพื่อรองรับการฉีดจำนวนมาก ส่วนการใช้ในอายุ 3 ปีขึ้นไปต้องรอผลการศึกษาจากจีน เพื่อพิจารณาอนุมัติทะเบียนแบบเพิ่มเงื่อนไข ย้ำจัดสรรวัคซีนตามสูตรของ ศบค. คำนึงทั้งศักยภาพการฉีดความต้องการฉีด และปริมาณวัคซีนให้มีความเหมาะสม

          วันนี้ (10 มิถุนายน 2564) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และในฐานะประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวว่า วันนี้เมื่อเวลา 05.30 น. ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ องค์การเภสัชกรรมได้รับวัคซีนโควิด 19 ของซิโนแวคจากประเทศจีน จำนวน 1 ล้านโดส ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะตรวจรับรองรุ่นการผลิต และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะตรวจใบรับรองการผลิตจากจีน เมื่อเรียบร้อยจะกระจายจัดส่งตามแผนต่อไป โดยปัจจุบันมีการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคแล้ว 10 ล็อต รวม 7.5 ล้านโดส ส่วนในปลายเดือนมิถุนายนนี้จะรับวัคซีนซิโนแวคเข้ามาเพิ่มอีก 2 ล้านโดส

            ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนจำนวนมากพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามสูตรและแผนที่ ศบค.กำหนด โดยบริหารจัดการวัคซีนให้สอดคล้องกับศักยภาพการฉีดของแต่ละจุด ความต้องการของประชาชน และจำนวนวัคซีนที่มี เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ฉีดได้วันละประมาณ 4 แสนโดส หากคิดเฉพาะวัคซีนซิโนแวค 1 ล้านโดสที่ได้มาวันนี้ จะใช้เวลาเพียง 3 วันก็ฉีดหมดแล้ว จึงจะมีการเจรจาจัดหาวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม

                นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนซิโนแวคในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ต้องรอผลการศึกษาวิจัยของบริษัทผู้ผลิตที่ประเทศจีน ทั้งปริมาณโดส จำนวนครั้งที่ฉีด และระยะห่างระหว่างเข็ม เนื่องจากร่างกายเด็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ หากมีการศึกษาวิจัยเรียบร้อย อย.สามารถพิจารณาเรื่องการขึ้นทะเบียน เพื่อเพิ่มเงื่อนไขหรือข้อบ่งชี้ในการใช้ต่อไป หรือหากองค์การอนามัยโลกพิจารณารับรองให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินโดยกำหนดไปจนถึงอายุ 3 ปีก็ช่วยให้แต่ละประเทศขึ้นทะเบียนได้ง่ายขึ้น

                “เมื่อมีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก จะสามารถพบรายงานอาการที่เกิดขึ้นหลังการฉีดได้ ซึ่งรายที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตจะมีการพิสูจน์ว่าเกิดจากวัคซีนหรือไม่ ส่วนกรณีข้อสังเกตว่าฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้วเกิดอาการไข้นั้น ถือเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา จากรายงานการศึกษาของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าพบอาการไข้หลังฉีดได้ 30% เมื่อพักผ่อนและรับประทานยาแล้วสามารถหายได้ใน 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม การมีไข้ไม่ได้แปลว่าร่างกายเกิดปฏิกิริยากระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า ย้ำว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และการฉีดวัคซีนขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาว่าควรฉีดวัคซีนชนิดใด” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว

 ***********************************  10 มิถุนายน 2564

 

 


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 10 มิถุนายน 2564 เวลา 16:32 น.