สธ. เตือนรับประทานอาหารร่วมกัน จุดเสี่ยงติดโควิด 19 ย้ำการ์ดอย่าตก


          กระทรวงสาธารณสุข เตือนการรับประทานอาหารร่วมกัน มีโอกาสแพร่และรับเชื้อโควิด 19 ได้ รวมทั้งการเดินทางและพบญาติผู้ใหญ่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองเคร่งครัด การ์ดอย่าตก ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่วนการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายเป็นไปตามแผน เตรียมระบบทุกจังหวัดให้พร้อมฉีดวัคซีนประชาชนล็อตใหญ่ในเดือนมิถุนายนนี้ 

          วันนี้ (31 มีนาคม 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 42 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 19 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 5 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 18 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และรักษาหายเพิ่มขึ้น 47 ราย ทำให้การติดเชื้อระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 - 31 มีนาคม 2564มีผู้รักษาหายแล้ว 23,249 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,343 ราย และเสียชีวิตสะสม 34 คน ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อใน 3 จังหวัด ได้แก่ กทม. 10 ราย สมุทรสาคร 11 ราย สมุทรปราการ 3 ราย

           นายแพทย์เฉวตรสรรกล่าวต่อว่า  สำหรับกรณีการพบผู้ติดเชื้อจากค้นหาเชิงรุกที่เป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) รายใหม่อีก 3 ราย พบว่ามีการรับประทานอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อรายก่อนหน้า มีการถอดหน้ากาก และพูดคุยกันระหว่างรับประทานอาหาร ทำให้มีโอกาสแพร่และรับเชื้อสูง นอกจากนี้ จากการสอบสวนโรคยังพบเจ้าหน้าที่บริการตักอาหารให้กับผู้ต้องกักที่หย่อนมาตรการป้องกันตนเอง เช่น สวมชุด PPE ไม่ถูกต้อง ไม่เคร่งครัดในการสวมหน้ากาก จึงทำให้เกิดการติดเชื้อ ขณะนี้ได้ปรับบริการอาหารผู้ต้องกักเป็นอาหารกล่อง เพื่อลดการสัมผัสลดความเสี่ยงการรับและแพร่เชื้อ

          นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดยาว ประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีความเสี่ยงติดเชื้อได้ ต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเอง ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พกเจลแอลกอฮอล์ และหมั่นล้างมือ หากมีไข้ ไอ ขอให้งดการเดินทางออกไปก่อน สำหรับลูกหลานที่กลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ขอให้หลีกเลี่ยงการกอดสัมผัสผู้สูงอายุ รักษาระยะห่าง และสวมหน้ากากตลอดเวลา เพราะมีโอกาสแพร่เชื้อโควิด 19 ให้กับผู้สูงอายุได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่เรารัก

           ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 30 มีนาคม 2564 ฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายแล้ว 180,477 โดส แบ่งเป็นฉีดเข็มแรก จำนวน 151,413 ราย ฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 29,064 ราย เป็นไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับแผนกระจายวัคซีนซิโนแวค 8 แสนโดสที่จะเริ่มฉีดในเดือนเมษายนนี้ในทุกจังหวัด โดยส่งให้ 22 จังหวัด ฉีดเพื่อควบคุมการระบาดใน 6 จังหวัด จำนวน 3.5 แสนโดส, ฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ท่องเที่ยว 8 จังหวัด จำนวน 2.4 แสนโดส และพื้นที่ชายแดน 8 จังหวัด จำนวน 5 หมื่นโดส และส่งให้จังหวัดใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับการจัดสรรวัคซีน จำนวน 52 จังหวัด รวม 1.6 แสนโดส ฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อสม. ซึ่งจะช่วยให้ระบบการฉีดวัคซีนของทุกจังหวัดมีความพร้อมบริการประชาชนทั่วประเทศ เมื่อเริ่มฉีดวัคซีนล็อตใหญ่ในเดือนมิถุนายนนี้

**************************** 31 มีนาคม 2564


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 31 มีนาคม 2564 เวลา 18:47 น.