รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 15 กันยายน 2563


รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ประจำวันที่ 15 กันยายน 2563

 

          สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อ 5 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่3 ราย และเคยมีประวัติป่วยโควิดมาแล้ว 2 ราย  ทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (ญี่ปุ่น 1 ราย, ปากีสถาน 1 ราย, กาตาร์ 1 ราย, บาห์เรน 1 ราย, ซาอุดิอาระเบีย 1 ราย) ได้รับการคัดกรองที่ด่านท่าอากาศยาน, เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้, สถานกักตัวทางเลือก หรือโรงพยาบาลรัฐ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 3 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,315 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.26 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 107 ราย หรือร้อยละ 3.07  ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,480 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก

          ญี่ปุ่น 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 33 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 9 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ ในจังหวัดชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกวันที่ 12 กันยายน 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว)ไม่มีอาการ      

          ปากีสถาน 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 19 ปี อาชีพนักศึกษา เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 13 กันยายน 2563 ได้รับการคัดกรองที่ด่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบเริ่มป่วยวันที่ 6 กันยายน 2563 มีน้ำมูก อาเจียน และทำการตรวจหาเชื้อในวันที่ 13 กันยายน 2563 ผลพบเชื้อ ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ

           กาตาร์ 1 ราย เป็นชาย สัญชาติอิหร่าน อายุ 35 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินทางถึงประเทศไทยวันที่
13 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในโรงพยาบาลทางเลือก ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกในวันที่ 13 กันยายน 2563 ไม่มีอาการตรวจเชื้อครั้งที่ 1 วันที่  30 สิงหาคม 2563 เนื่องจากให้ประวัติติดเชื้อเมื่อเดือนมิถุนายน ผลไม่พบเชื้อ และได้รับการ

          บาห์เรน 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 63 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 30 สิงหาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ในจังหวัดชลบุรี ได้รับการตรวจหาเชื้อในครั้งที่ 2 วันที่ 11 กันยายน 2563
ผลไม่ชัดเจน จึงตรวจซ้ำในวันที่ 14 กันยายน 2563 ผลพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย

           ซาอุดีอาระเบีย 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 40 ปี สัญชาติอังกฤษ อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 1 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือกในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจในครั้งที่ 2 วันที่ 13 กันยายน 2563 (วันที่ 12 ของการกักตัว) เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ไม่มีอาการ รายนี้มีประวัติการป่วยตรวจพบเชื้อโควิด ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

          นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การที่ประเทศไทยสามารถติดตามผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วทำให้จำกัดวงการแพร่ระบาดได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนร่วมมือลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ผ่านแอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้บริการแล้ว 44,884,100 คน โดยมีกิจการร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วม จำนวน 288,824 แห่ง นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือของประชาชนที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น นอกจากจะช่วยป้องกันโรคโควิด 19 ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่นๆ และโรคติดต่อทางเดินอาหารด้วย จากข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ตั้งแต่ เดือนมกราคม – สิงหาคม 2562 ประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 250,886 ราย เสียชีวิต 17 ราย ซึ่งในช่วงเดียวกันของปี 2563 มีผู้ป่วยจำนวน 108,833 ราย เสียชีวิต 3 ราย  ส่วนผู้ป่วยโรคท้องร่วง ในปี 2562 มีจำนวน 743,934 ราย เสียชีวิต 5 ราย ในปี 2563 มีจำนวน 569,664 ราย เสียชีวิต 2 ราย จากข้อมูลจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่ามาตรการป้องกันตนเองสามารถช่วยลดอุบัติการณ์ของโรคทั้ง 2 กลุ่ม กระทรวงสาธารณสุขจึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่องเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี และลดอัตราการป่วยจากโรคดังกล่าว

          จากมาตรการป้องกันตนเองที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคโควิด 19 จนเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติแล้ว ยังสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ระบุไว้ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ว่า “การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหะสถานนั้น เป็นหนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ในการลดความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อโรคติดต่อทางเดินหายใจ โดยยังต้องรักษาสุขอนามัยร่วมกับการล้างมือให้ถูกวิธี และการรักษาระยะห่างจากผู้อื่นให้เป็นปกติสม่ำเสมอ”  ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศนำมาตรการนี้ไปบังคับใช้กับประชากรในประเทศให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิดในชุมชน

 *********************  15 กันยายน 2563

 *********************


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 15 กันยายน 2563 เวลา 15:40 น.