กรมการแพทย์เตือนผู้ที่นิยมสักผิวหนัง อาจมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้


          กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เตือนผู้ที่นิยมสักผิวหนัง อาจมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อหรือเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ พร้อมแนะการปฏิบัติตนให้ถูกวิธี

                     

          นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การสักเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบันทั้งเพื่อความสวยงามหรือเพื่อเป็นตัวแทนของสัญลักษณ์บางอย่าง การสักมีได้ทั้งแบบการสักโดยใช้มือ หรือการใช้เครื่องเพื่อทำการสัก โดยสีที่ใช้สักมีหลายชนิดและส่วนประกอบขึ้นกับสีที่ต้องการ ถึงแม้ว่าการสักจะถือเป็นความงามทางศิลปะอย่างหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามบางครั้งการสักอาจจะก่อให้เกิดผลเสียได้ เช่น ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ หรือเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หากมีความผิดปกติที่รอยสัก เช่น ผื่นแดง คัน เป็นหนอง แนะนำไปตรวจกับแพทย์ผิวหนัง เพื่อให้การรักษาที่ถูกวิธี

          แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสักที่ผิวหนัง อาจมีความเสี่ยงดังนี้ 1)การติดเชื้อในบริเวณที่สัก ซึ่งอาการของการติดเชื้อจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วขึ้นกับชนิดของเชื้อที่ก่อโรค 2)การแพ้สีที่ใช้ในการสัก ซึ่งการแพ้สีขึ้นอยู่กับบุคคล บางครั้งอาจไม่สามารถบอกได้ล่วงหน้า ยกเว้นว่าจะเคยมีประวัติแพ้สีดังกล่าวมาก่อน และเนื่องจากสีเป็นสารภายนอกที่ถูกนำเข้าสู่ผิวหนัง ดังนั้นในบางครั้งอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบที่เกิดจากร่างกายทำปฏิกิริยาต่อสิ่งแปลกปลอมในระยะยาวได้ 3)การเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ 4)การสักอาจจะไม่ได้ตามลายหรือสีที่ต้องการ 5)การที่ไม่ต้องการสักถาวรจริงๆ ทำให้ต้องไปลบรอยสัก ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าตอนสักมาก

          ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่สักมาแล้วพบปัญหาผื่นแดง คัน เป็นหนอง แนะนำให้มาพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อให้การรักษาที่ถูกต้อง หากติดเชื้อที่ผิวหนังอาจต้องให้ยาฆ่าเชื้อ เพื่อไม่ให้แผลลุกลามมากขึ้น ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ผื่นดังกล่าวเป็นมากขึ้น หากคันมากให้ยาแก้คัน หลีกเลี่ยงการเกา และการเสียดสีกับแผล เช่น การใส่เสื้อผ้าคับ

*****************************************

#กรมการแพทย์ #สถาบันโรคผิวหนัง #แพทย์ผิวหนังเตือนผู้ที่นิยมสักผิวหนัง อาจมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้

– ขอขอบคุณ –

7 ตุลาคม 2563


จากหน่วยงาน : กรมการแพทย์ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 9 ตุลาคม 2563 เวลา 15:47 น.