คณะกรรมการอาหารเห็นชอบร่างกฎหมายสารพิษตกค้างในอาหารมุ่งความปลอดภัยผู้บริโภคและความเท่าเทียมทางการค้า


คณะกรรมการอาหารเห็นชอบร่างกฎหมาย เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง หลังทบทวนและประชุมหารือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน เอกชน และเครือข่ายห้องปฏิบัติการ เห็นชอบร่วมกันใช้ค่าต่ำสุดที่ห้องปฏิบัติการสามารถตรวจสอบได้ หรือ LOD (Limit of Detection) ทั้งนี้ยึดหลักการสำคัญเน้นคุ้มครองความปลอดภัยสุขภาพของผู้บริโภคและความเท่าเทียมระหว่างผู้ผลิตและผู้นำเข้าอาหาร สำหรับข้อกังวลของอุตสาหกรรมอาหารเกี่ยวกับผลกระทบการขาดแคลนสินค้าเกษตรที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปอาหาร โดยเฉพาะถั่วเหลืองและข้าวสาลี มีค่ากำหนดสอดคล้องกับสหภาพยุโรป (EU) ที่มีการแบนพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอสเช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 1 มิถุนายน 2564


นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2563 กำหนดให้คลอร์ไพริฟอส, คลอร์ไพริฟอสเมทิล, พาราควอต, พาราควอตไดคลอไรด์ และพาราควอตเมโทซัลเฟต เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามใช้สารดังกล่าวในทางการเกษตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอาหารจึงดำเนินการทบทวนประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นทั้งในและต่างประเทศ ประชุมหารือผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และเอกชน รวมทั้งเครือข่ายห้องปฏิบัติการ โดยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 คณะกรรมการอาหารได้มีมติเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง (ฉบับที่ 3) โดยปรับเพิ่มรายชื่อวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 รวม 5 รายการดังกล่าว ในปี 2563 อย. ได้เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อาหารที่จำหน่ายในท้องตลาดที่มีวัตถุดิบที่มีโอกาสพบการตกค้างของคลอร์ไพริฟอสและพาราควอต เช่น ถั่วเหลือง น้ำนมถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเหลือง ข้าวสาลี แป้งสาลี ขนมปัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อวิเคราะห์หาปริมาณสารพิษตกค้างของพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส จำนวน 48 ตัวอย่าง

ซึ่งผลตรวจไม่พบการตกค้างของพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสทั้ง 48 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 100 สำหรับข้อกังวลของอุตสาหกรรมอาหารเกี่ยวกับผลกระทบการขาดแคลนสินค้าเกษตรที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปอาหาร โดยเฉพาะถั่วเหลืองและข้าวสาลี คณะกรรมการอาหารได้พิจารณาข้อมูลผลการเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัย ข้อมูลการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว และข้อกำหนดของสหภาพยุโรป ที่ประกาศห้ามใช้พาราควอตและ

คลอร์ไพริฟอสเช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งข้อกำหนดตาม(ร่าง)ประกาศฯ ฉบับนี้สอดคล้องกับข้อกำหนดของสหภาพยุโรป เลขาธิการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ผู้บริโภคได้มั่นใจกับความปลอดภัยของอาหารที่ อย.ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองผู้บริโภคมาเป็นอันดับแรก และในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงเศรษฐกิจของประเทศ

*******************************

วันที่เผยแพร่ 21 สิงหาคม 2563 / ข่าวแจก 127 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

 


จากหน่วยงาน : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 21 สิงหาคม 2563 เวลา 13:12 น.