“อนุทิน”มอบนโยบาย กรมวิทย์ เร่งสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ ช่วยแก้ปัญหาสาธารณสุข และพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี


รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  เร่งสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ ช่วยแก้ไขปัญหาสาธารณสุข และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี  พร้อมเปิดตัวคู่มือการตรวจวิเคราะห์กัญชาทางการแพทย์ และมาตรฐานการตรวจหาปริมาณสารสำคัญทั้งในวัตถุดิบ สารสกัดและผลิตภัณฑ์จากกัญชา เพื่อใช้เป็นมาตรฐานของประเทศ

วันนี้ (28 ตุลาคม 2562) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  คณะผู้บริหารส่วนกลางและศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้การต้อนรับ หลังจากนั้น นายอนุทิน (รมว.สธ.) ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นิทรรศการผลงานและกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ, กัญชาเสรีทางการแพทย์ การแพทย์แม่นยำ (Genomics Thailand) อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน, การพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สินค้า OTOPและSME, การพัฒนานวัตกรรมชุดทดสอบและผลิตภัณฑ์สมุนไพร และการคัดกรองทารกแรกเกิด

นายอนุทิน กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นหน่วยงานที่มีนักวิจัยที่เก่งมีความรู้ความสามารถและมีความเป็นเลิศทางด้านห้องปฏิบัติการในระดับประเทศและภูมิภาคอาเซียน มีการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และการตรวจชันสูตรด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์  พัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพห้องปฏิบัติการ ช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศและการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อประเมินความเสี่ยง แจ้งเตือนภัยสุขภาพและคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อาทิ ชุดตรวจยีนแพ้ยา จำนวน 3 ชุด ได้แก่ ชุดตรวจยีน HLA-B*58:01 ก่อนให้ยาลดกรดยูริค อัลโลพูรินอล  (Allopurinol), ชุดตรวจยีน HLA-B*57:01 ก่อนให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี อะบาคาเวียร์ (Abacavir) และชุดตรวจยีน HLA-B*15:02 ก่อนให้ยากันชักคาร์บามาซีปีน (Carbamazepine) เพื่อป้องกันผื่นแพ้ยาชนิดรุนแรง ลดภาวะแพ้ยาในผู้ป่วยลมชักถึงร้อยละ 88 ช่วยประหยัดงบค่ารักษาพยาบาลจากอาการแพ้ยารุนแรงปีละกว่า 250 ล้านบาท ปัจจุบันได้เพิ่มสิทธิประโยชน์การตรวจยีน HLA ในผู้ป่วยโรคลมชัก ก่อนเริ่มยาคาร์บามาซีปีนใน 3 กองทุนหลัก ได้แก่ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม และกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่จำเป็นมีคุณภาพและมาตรฐานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีชุดทดสอบตรวจความผิดปกติของยีนอัลฟ่าธาลัสซีเมีย 1 (DMSc α-thal 1) เนื่องจากในแต่ละปีประเทศไทยมีมารดาที่เสี่ยงต่อการมีบุตรเป็นโรคธาลัสซีเมียกว่า 5 หมื่นคน และมีเด็กเกิดใหม่ป่วย เป็นโรคธาลัสซีเมีย 12,125 ราย รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณในการรักษาผู้ป่วยปีละไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท ดังนั้นการตรวจที่ให้ผลรวดเร็วถูกต้องแม่นยำ จะช่วยควบคุมและป้องกันโรคมีประสิทธิภาพและนำไปสู่การดูแลรักษาผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยชุดทดสอบนี้ได้รับการขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยและต่อยอดสู่การพัฒนานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ในการแปลผลการทดสอบ รวมทั้งได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีการผลิตสู่ภาคเอกชน เพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และขณะนี้กำลังมีการพัฒนาชุดทดสอบกัญชาและพัฒนาชุดตรวจวัดปริมาณสาร THC สำหรับให้เจ้าหน้าที่หรือประชาชนนำไปใช้ตรวจสอบพืชกัญชาและผลิตภัณฑ์กัญชา ส่วนงานด้านคุ้มครองผู้บริโภคได้มีการแจ้งเตือนภัยสุขภาพ เช่น การพัฒนา อสม. ให้เป็น “อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน” สวมปลอกแขนเขียว  และการจัดตั้งศูนย์เตือนภัยสุขภาพในหมู่บ้าน ตำบล เป็นอำเภอต้นแบบแจ้งเตือนภัยสุขภาพ 

“ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยกันสนับสนุนผลักดันนโยบายกระทรวงสารณสุขในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ แก้ปัญหาสาธารณสุข และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี  การตรวจเฝ้าระวังสารเคมีปนเปื้อนในผักผลไม้และสนับสนุนให้ยกเลิกใช้ 3 สารเคมี ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต  และเรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนางานกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนได้รับยาที่มีคุณภาพ ปลอดภัย  และสามารถผลิตในประเทศได้  ทำให้เกิดความมั่นคงด้านยาและพัฒนาสายพันธุ์กัญชา กัญชง เพื่อนำมาเป็นพืชเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต อีกทั้งขณะนี้ได้เปิดตัวคู่มือการตรวจวิเคราะห์กัญชาทางการแพทย์ และมาตรฐานการตรวจหาปริมาณสารสำคัญทั้งในวัตถุดิบ สารสกัด และผลิตภัณฑ์จากกัญชา เพื่อใช้เป็นมาตรฐานของประเทศ” นายอนุทิน กล่าว

***********************  28 ตุลาคม 2562


จากหน่วยงาน : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดดู 566 view
วันที่ประกาศข่าว : 28 ตุลาคม 2562 เวลา 17:11 น.