ไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง ลดแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ 

          รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยกระทรวงสาธารณสุข เร่งพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชน ทั้งอาคาร และอุปกรณ์การแพทย์ เป็นศูนย์กลางในการดูแลผู้ป่วยโรคที่ไม่ต้องรักษายุ่งยากในอำเภอ อำนวยความสะดวกประชาชน ไม่ต้องเดินทางรักษาตัวโรงพยาบาลในเมือง ลดความแออัดโรงพยาบาลใหญ่

          วันนี้ (27 มกราคม 2555) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารสงฆ์อาพาธขนาด 30 เตียง และเปิดป้ายอาคารส่งเสริมสุขภาพอเนกประสงค์ โรงพยาบาลไพรบึง จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระราชกิตติรังสี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์

          นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวว่า  จากการสำรวจข้อมูลการใช้บริการสุขภาพของประชาชน ในปี 2552 พบว่า ร้อยละ 65 ใช้บริการในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข   ในจำนวนนี้ ร้อยละ 18 ใช้บริการที่โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งเป็นโรงพยาบลาขนนาดใหญ่ อีกร้อยละ 37 ใช้บริการที่โรงพยาบาลชุมชน และที่เหลือใช้บริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อัตราการใช้บริการผู้ป่วยนอกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 1.8 ครั้งต่อคนต่อปีในปี 2544 เป็น 3.4 ครั้งต่อคนต่อปีในปี 2552  โดยสูงสุดที่กทม. 4-6 ครั้ง ต่ำสุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1-3 ครั้ง  ซึ่งร้อยละ 0.1 ของผู้ป่วยนอกต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ทำให้แนวโน้มอัตราการใช้บริการผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นเช่นกันจากร้อยละ 10 ในปี 2538 เป็นร้อยละ 15 ในปี 2550

นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายพัฒนาระบบบริการทุกระดับ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น และลดปัญหาความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่  โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้ทำภารกิจหลักคือทำงานเชิงรุกเพื่อสร้างสุขภาพ ลดปัญหาการเจ็บป่วย และดูแลรักษาโรคเบื้องต้นในผู้ที่เจ็บป่วยแล้ว และพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลชุมชนให้เป็นศูนย์กลางการรักษาผู้ป่วยด้วยโรคที่รักษาไม่ยุ่งยากภายในอำเภอ  โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาระบบบริการสุขภาพอย่างยั่งยืน ช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการรับบริการสุขภาพ ไม่ต้องเดินทางไปรักษาในโรงพยาบาลในเมือง ลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ในเมือง 

ด้านนายแพทย์สุขเกษม เรืองนุช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไพรบึง กล่าวว่า อาคารตึกสงฆ์อาพาธที่ก่อสร้างนี้ เป็นอาคาร 2 ชั้น ประกอบด้วยหอผู้ป่วยรวม ห้องพิเศษ 10 ห้อง พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมมูลค่า ประมาณ 24 ล้านบาท ขณะนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และประชาชนบริจาค รวม 8.7 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 15 ล้านบาทจะเสนอของบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุขต่อไป เพื่อติดตั้งระบบสาธารณูปโภค อุปกรณ์การแพทย์ และระบบออกซิเจนผู้ป่วย คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2555 ซึ่งจะทำให้สามารถขยายบริการรับผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลได้เป็น 60 เตียงจากเดิมรับได้ 30 เตียง ตั้งเป้าหมายรองรับผู้ป่วยทั้งพระภิกษุ สามเณร และประชาชนในอาคารนี้ได้ปีละ 2,000 3,000 ราย รวมทั้งมีแผนพัฒนาระบบบริหารจัดการโรงพยาบาลรูปแบบใหม่ โดยมีคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลที่เป็นตัวแทนจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อให้มีความคล่องตัวเหมือนโรงพยาบาลเอกชน

*********************************  27 มกราคม 2555

 



   
   


View 6       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ