สาธารณสุข ทุ่มงบ 118 ล้านบาท ตั้งศูนย์แพทย์ชุมชนใน 21ตำบล 20 จังหวัด มีแพทย์ พยาบาล เภสัชกร พยาบาล ทันตแพทย์ พร้อมเครื่องมือแพทย์ รถพยาบาลฉุกเฉิน อำนวยความสะดวกประชาชนเข้าถึงบริการ 24 ชั่วโมง ชี้ผู้ป่วยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องไปหาแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลใหญ่ นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคีพร้อมกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหาระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ประชาชน ที่วัดแม่เตย หมู่ที่ 1 ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อบ่ายวันนี้( 25 มีนาคม 2550 )ว่า การทอดผ้าป่าในวันนี้ เพื่อจัดหารายได้นำไปก่อสร้างอาคารศูนย์แพทย์ชุมชน ซึ่งจะก่อสร้างบนพื้นที่สาธารณะบางส่วนของฌาปนกิจสถานบ้านโคกแม่เตย หมู่ที่ 1 ตำบลท่าข้าม อ.หาดใหญ่ ศูนย์แพทย์ชุมชนดังกล่าวเป็นศูนย์บริการสุขภาพประชาชนใน 3 ตำบลได้แก่ตำบลท่าข้าม ตำบลทุ่งใหญ่และตำบลน้ำน้อย อ.หาดใหญ่เป็นแห่งแรกในประเทศเพื่อใช้ทรัพยากรบริการร่วมกัน และเป็นศูนย์แพทย์ในเครือข่ายของโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อกระจายบริการทางการแพทย์ให้ประชาชนได้รับบริการสะดวกและใกล้บ้านยิ่งขึ้น โดยระดมงบประมาณก่อสร้างให้ได้ประมาณ 7 ล้านบาท ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง 3 ตำบลและประชาชน นายแพทย์มงคลกล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า ระบบการลงทุนโดยรัฐที่หน่วยบริการระดับอำเภอ เช่นสถานีอนามัยและโรงพยาบาลชุมชน ซึ่งเป็นสถานบริการที่อยู่ใกล้บ้าน สามารถลดความไม่เท่าเทียมการเข้าถึงบริการของประชาชน ได้ดีกว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีระดับสูงที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่จากสถานการณ์ขณะนี้พบว่า บริการสุขภาพขั้นพื้นฐานจำนวนมาก คั่งอยู่ตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้ค่าใช้จ่ายสุขภาพส่วนใหญ่ใช้ไปที่บริการผู้ป่วยนอกของรัฐมากที่สุดร้อยละ 32 ใช้บริการที่คลินิกร้อยละ 8 ใช้บริการที่สถานีอนามัยเพียงร้อยละ 2 ซื้อยากินเองร้อยละ 8 แนวโน้มผู้ป่วยใช้บริการแออัดที่โรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมาจากในเขตพื้นที่อำเภอตั้งของโรงพยาบาลประมาณร้อยละ 50 ในจำนวนนี้ กว่าร้อยละ 50 เจ็บป่วยด้วยโรคทั่วๆไป ไม่จำเป็นต้องดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพของระบบริการขั้นต้นหรือปฐมภูมิ นายแพทย์มงคลกล่าวต่อไปว่า ในการพัฒนาการระบบบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจัดตั้งศูนย์แพทย์ชุมชนในตำบล จำนวน 21 แห่งใน 20 จังหวัด โดยพัฒนาปรับปรุงอาคารของสถานีอนามัยขนาดใหญ่ที่มีอยู่แล้ว ใช้งบประมาณแห่งละประมาณ 6 ล้านบาท รวม 118 ล้านบาท และจัดแพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ พยาบาลเจ้าหน้าที่ประจำการบริการตรวจรักษาตลอด 24 ชั่วโมงบริการผสมผสานกับการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคในชุมชน มีเครื่องมือแพทย์เพิ่มเติมได้แก่ เครื่องเอ็กซเรย์เคลื่อนที่ เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบอัตโนมัติ เครื่องล้างฟิล์มอัตโนมัติ รวมทั้งรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อส่งผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาล และสามารถรับดูแลผู้ป่วยกลับมาดูแลในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ โรงพยาบาลใหญ่ไม่มีสภาพแน่นแออัดเหมือนที่ผ่านมา ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าสถานีอนามัย(สอ.)ที่จะพัฒนาเป็นศูนย์แพทย์ชุมชน 21 แห่ง ได้แก่ 1. สอ.นาวิลัย กิ่งอ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น 2. สอ.โนนเขวา กิ่งอ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ 3.สอ.คลองเมือง กิ่งอ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร 4.สอ.คลองเขื่อน กิ่งอ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา 5.สอ.ซับใหญ่ กิงอ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ 6.สอ.วังยาง กิ่งอ.วังยาง จ.นครพนม 7. สอ.พระพรหม กิ่งอ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช 8.สอ.หนองหิน กิ่งอ.หนองหิน จ.เลย 9.สอ.ลานหมาใน กิ่งอ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ 10.สอ.สากเหล็ก กิ่งอ.สากเหล็ก จ.พิจิตร 11. สอ.เทิดไท กิ่งอ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด 12.สอ.ชื่นชม กิ่งอ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม 13.สอ.บ้านคา กิ่งอ.บ้านคา จ.ราชบุรี 14.สอ.ปาล์มพัฒนา กิ่งอ.มะนัง จ.สตูล 15.สอ.ปลาเดิด กิ่งอ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ 16.สอ.หยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ 17. สอ.บ้านจืด กิ่งอ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี 18. สอ.น้ำขุ่น กิ่งอ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี 19.สอ.ด่านศรีสุข กิ่งอ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย 20. สอ.ปงน้อย กิ่งอ.ดอยหลวง จ.เชียงราย และ 21 สอ.แม่ตืน อ.ลี้ จ.ลำพูน โดยเฉพาะสอ.ลี้นี้ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นออกงบปรับปรุงอาคารให้ ******************************* 25 มีนาคม 2550


   
   


View 14    25/03/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ