รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงพยาบาลสิชล นครศรีธรรมราช เผยผลงานดีเยี่ยม ประชาชนพึงพอใจบริการกว่าร้อยละ 90 และให้ความร่วมมือพัฒนางานสาธารณสุขเต็มที่ แนะเตรียมพัฒนาบริการสุขภาพรองรับผู้สูงอายุที่จะมีมากขึ้นในอนาคต
วันนี้ (21 มีนาคม 2550) นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เดินทางตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน มอบนโยบายแนวทางการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ และสนทนากับแกนนำครอบครัว แกนนำผู้สูงอายุ อาสาสมัครสาธารณสุข อ.สิชล เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนางานในพื้นที่ พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรแก่ อสม.ดีเด่นประจำปี 2549 ของอำเภอสิชล จำนวน 103 คน ผู้สูงอายุดีเด่น 12 คน และแกนนำเครือข่ายสุขภาพ 15 คน สร้างขวัญกำลังใจและตอบแทนความเสียสละ ในการดูแลส่งเสริมสุขภาพประชาชนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์มรกตกล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยม พบว่าโรงพยาบาลสิชลมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านสุขภาพอย่างมาก มีการใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในท้องถิ่นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของประชาชน เห็นได้จากการขยายบริการ จากโรงพยาบาลชุมชนตั้งแต่ขนาด 30 เตียง เป็น 60 เตียง และ 120 เตียงในปัจจุบัน โดยใช้เงินบริจาคของประชาชนในพื้นที่ ทำให้ไม่ต้องใช้งบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ประชาชนมีการรวมตัวกัน เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น จิตอาสาสาธารณะเพื่อมวลชน วิทยุชุมชนเพื่อคนรักสุขภาพ หมอยาประจำบ้านเพื่อการพึ่งพาตนเอง เครือข่ายสุขภาพร่วมใจเฝ้าระวังภัยเงียบ เป็นต้น ทำให้สามารถลดจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคที่สามารถป้องกันได้ระดับหนึ่ง และเมื่อประเมินความพึงพอใจระบบบริการของโรงพยาบาล พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจสูง ถึงร้อยละ 95
นายแพทย์มรกตกล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้สูงอายุซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นและอายุยืนขึ้นในอนาคต เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ส่วนหนึ่งจะเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง ที่สะสมมาตลอดชีวิต เช่น ไม่ออกกำลังกาย กินอาหารไขมันสูง สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า โดยโรคที่พบบ่อย ได้แก่ หอบหืด มะเร็ง โลหิตจาง ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูง ไตวาย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ วัณโรค และข้อเสื่อม ทั้งนี้ ผลสำรวจสุขภาพผู้สูงอายุในปี 2547 พบว่าร้อยละ 80-90 ป่วยเป็นโรคเหล่านี้พร้อมกันไม่ต่ำกว่า 2 โรค จึงต้องเตรียมการรองรับ โดยมีนโยบายให้จัดตั้งชมรมผู้สูงอายุ และเน้นการจัดกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น รวมทั้งจัดระบบบริการสุขภาพที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ เช่น การดูแลสุขภาพถึงบ้าน เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงพยาบาล ตลอดจนพัฒนาวัดส่งเสริมสุขภาพอย่างน้อยจังหวัดละ 2 แห่ง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความสะดวก ปลอดภัย เมื่อไปทำบุญหรือกิจกรรมทางศาสนาที่วัด
สำหรับอำเภอสิชล มีผู้สูงอายุทั้งหมด 10,212 คน ในจำนวนนี้กว่าครึ่งเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ มีการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งมีเงินทุนถึง 2.3 ล้านบาท การออกกำลังกาย ด้วยการรำ มโนราห์หรือเต้นแอโรบิค ออกเยี่ยมผู้ป่วยสูงอายุที่บ้าน เป็นอาสาสมัครจิตอาสาในโรงพยาบาล ช่วยพับเสื้อผ้าผู้ป่วย บรรเลงดนตรีไทยให้ผู้รับบริการฟัง ตลอดจนผลิตสินค้าจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน เช่น เครื่องจักสาน ไม้กวาด ไม้เท้า เพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือสมาชิกในชมรม ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าในตนเองและดำรงชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น
******************************* 21 มีนาคม 2550
View 14
21/03/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ