กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยในลำปาง พะเยา และเชียงราย เป็นหวัดจากพิษหมอกควันถึงร้อยละ 66 โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังกำเริบร้อยละ 17 ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เพิ่มหน้ากากอนามัยให้ 8 จังหวัด ภาคเหนืออีก 300,000 ชิ้น
วันนี้(16 มีนาคม 2550)นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์กิตติศักดิ์ กลับดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทนงสรรค์ สุธาธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์มลพิษหมอกควันในภาคเหนือ โดยในช่วงเช้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันที่โรงพยาบาลลำปาง จ.ลำปาง จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมที่สถานีอนามัยแม่กา อ.เมือง จ.พะเยา และเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ในวันนี้ได้ส่งหน้ากากอนามัยเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ แม่ฮ่องสอน และพะเยาอีก 300,000 ชิ้น โดยเชียงราย พะเยาและลำปางได้จังหวัดละ 40,000 ชิ้น
นายแพทย์มรกต กล่าวว่า จากการติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบที่เกิดจากหมอกควันในภาคเหนือขณะนี้พบว่าค่าเฉลี่ยมลพิษทางอากาศยังสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน และมีผู้ป่วยที่ได้รับกระทบเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัดจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังดูแลสุขภาพประชาชนและประเมินสถานการณ์วันต่อวัน โดยให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งรายงานสถานการณ์และความต้องการความช่วยเหลือมายังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกวัน และสั่งการให้เฝ้าระวัง/สังเกต/สอบถามประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ โรคหัวใจ โรคถุงลมปอดโป่งพอง ซึ่งอาจมีอาการกำเริบอย่างฉุกเฉินได้
นายแพทย์มรกต กล่าวต่อไปว่า ที่จังหวัดลำปาง ผลการตรวจปริมาณฝุ่นละอองของกรมควบคุมมลพิษพบสูงสุดมีค่า 152.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 1-14 มีนาคม 2550 มีผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเข้ารักษาในโรงพยาบาลลำปางแล้ว 1,578 ราย ผู้ป่วยนอก 1,460 รายหรือร้อยละ 93 ในจำนวนนี้พบว่าเป็นหวัดถึงร้อยละ 66 เป็นผู้ป่วยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 118 ราย โดยเป็นโรคถุงลมปอดโป่งพองร้อยละ 17 หอบหืดร้อยละ 1 ที่เหลือเป็นภูมิแพ้และตาอักเสบ ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยรุนแรง
ที่จังหวัดเชียงรายพบผู้ป่วยแล้วกว่า 12,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นหวัด แสบตาและตาแดง และพบว่าจังหวัดเชียงรายต้องการใช้หน้ากากอนามัยสำหรับแจกให้ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุและเด็ก 0-5 ปีอีกจำนวน 120,000 ชิ้น ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายได้ประสานงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดช่วยจัดซื้อหน้ากาก และถุงมือใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งอย่างละ 1,269,300 ชิ้นมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท ส่วนที่โรงพยาบาลพะเยามีผู้ป่วยแล้ว 200 ราย ส่วนใหญ่รักษาแล้วกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
สำหรับการปฏิบัติตัวป้องกันไม่ให้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด ควรอยู่ในบ้านและเตรียมยาให้พร้อม ปิดหน้าต่างประตูเพื่อป้องกันมิให้หมอกควันเข้าบ้าน หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ในกรณีที่อยู่ในบริเวณที่มีหมอกควันหรือจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆปิดจมูกและปาก เมื่อมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที ให้งดเว้นการสูบบุหรี่และดื่มน้ำบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานหนักกลางแจ้ง และติดตามรับฟังข่าวสารหรือข้อมูลของทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง
มีนาคม 5/1 ****************************** 16 มีนาคม 2550
View 11
16/03/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ