ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเผยเหตุพยาบาลจบใหม่ส่วนใหญ่ลาออก เนื่องจากไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ เร่งแก้ไขพัฒนาระบบกำลังคนด้านพยาบาล ยกเครื่องทั้งระบบ 3 แนวทาง ตั้งทีมศึกษาข้อมูลการใช้กำลังอย่างแท้จริงในโรงพยาบาลทุกระดับ พร้อมเตรียมออกนอกระบบและบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขมีสวัสดิการเทียบเท่าข้าราชการ ลดปัญหาการลาออก

          วันนี้ (9 สิงหาคม 2554) ที่โรงแรมสุนีย์แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ แนวทางพัฒนาคน เพื่อพัฒนางานการพยาบาล เพื่อเผยแพร่ แลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการพัฒนากำลังคนทางการพยาบาลและนวัตกรรมทางการพยาบาล  มีพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศร่วมประชุมจำนวน 1,300 คน

นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขรายใหญ่ของประเทศเนื่องจากมีหน่วยงานบริการประชาชนกระจายทั่วประเทศกว่า 10,000 แห่ง หรือประมาณร้อยละ 80 ของหน่วยให้บริการรักษาพยาบาลทั้งหมดมีผู้ป่วยนอกเข้ารับการรักษาปีละ 180 ล้านครั้ง และผู้ป่วยในปีละ 2 ล้านคน ขณะนี้กระทรงสาธารณสุขประสบปัญหาขาดแคลนกำลังคน   โดยพยาบาลที่จบใหม่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ จึงเป็นสาเหตุให้ลาออกไปทำงานในภาคเอกชน   ทำให้บุคลากรโดยเฉพาะพยาบาลที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 70,000 - 80,000 คน ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่   ดังนั้นการแก้ไขด้านกำลังคนของพยาบาลจะต้องแก้ไขทั้งระบบ คือ 1.ต้องผลิตพยาบาลให้เพียงพอ และ 2.ต้องรักษาบุคลากรที่ผลิตมาให้ทำงานในระบบได้

                       

นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ทางออกการแก้ไขเรื่องกำลังคน  กระทรวงสาธารณสุขได้วางทิศทางแก้ไข 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ศึกษากำลังคนสุขภาพในระดับประเทศและระดับกระทรวงสาธารณสุข โดยตั้งทีมวิชาการศึกษากำลังคนในสาขาต่างๆ ที่จำเป็นทั้งระบบทำงานควบคู่กับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกในหน่วยบริการทุกระดับ และศึกษาในหน่วยจัดการศึกษาทุกแห่งเพื่อให้ได้ข้อมูลการใช้กำลังคนที่แท้จริง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้  

2.เตรียมการออกนอกระบบ ไม่สังกัดกับ ก.พ. เพื่อบริหารกำลังคนแบบอิสระโดยมีพระราชบัญญัติรองรับคล้ายกับกระทรวงศึกษาธิการและ 3.จัดระบบบริหารลูกจ้างชั่วคราวให้อยู่ในระบบได้  โดยจัดเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขรูปแบบเฉพาะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  มีสวัสดิการเช่นเดียวกับข้าราชการและมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อเกษียณอายุ  ซึ่งเบื้องต้นจะมีพนักงาน 3 กลุ่มคือ กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เป็นต้น กลุ่มเชี่ยวชาญพิเศษ และกลุ่มเทคนิคบริการบริหารทั่วไป  นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าว

  .................................. 9 สิงหาคม 2554
 


   
   


View 9       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ