สธ. ตั้งวอร์รูม สู้ภัยหมอกควัน 8 จังหวัดภาคเหนือ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งตั้งวอร์รูมเฉพาะกิจที่กระทรวงวสาธารณสุข ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยหมอกควันใน 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือพื้นที่ ทั้งดานการป้องกัน และการรักษาประชาชนที่เจ็บป่วย ล่าสุดผลกระทบจากหมอกควัน ชาวเชียงใหม่ป่วยวันละ 2,059 ราย ที่เชียงรายพบวันละ 1,000 ราย ส่วนใหญ่มีอาการไอ แสบตา แสบคอ นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยหมอกควันไฟที่ภาคเหนือ ว่า เนื่องจากขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยในวงกว้าง 8 จังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการหรือวอร์รูม ช่วยเหลือประชาชนจากหมอกควัน ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที จากการประเมินกลุ่มเสี่ยงที่คาดว่าจะมีผลกระทบ เจ็บป่วยง่ายกว่าคนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นโรคเกี่ยวกับปอด ทางเดินหายใจ สุขภาพอ่อนแอ ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ วัณโรคปอด ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 5 แสนคน ซึ่งจะต้องมีการจัดระบบบริการอย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยขณะนี้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ได้รับรายงานในวันนี้ว่า ที่จังหวัดเชียงรายมีผู้ป่วยเข้าตรวจรักษาที่โรงพยาบาลวันละ 1,000 ราย ที่จังหวัดเชียงใหม่ เข้ารักษาตัววันละ 2,059 ราย สวนใหญ่ไอ เจ็บคอ ระคายเคืองตา โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่จังหวัดลำปาง พะเยา เชียงราย ทางด้านแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการจัดตั้งวอร์รูมแก้ปัญหาสุขภาพจากหมอกควัน มีศูนย์ปฏิบัติการประสานงานที่สำนักบริหารการสาธารณสุขภูมิภาค อาคาร 6 ชั้น 2 โทรศัพท์ 0-2590-1739 ,0-2590-1752,0-2590-1754,0-2590-1744-5 ,0-2590-1750 โทรสาร 0-2590-1750-1, 0-2590-1744 มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานถึง 20.00 น.ทุกวัน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการประจำศูนย์ ประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนจากองค์การเภสัชกรรม โดยจะประชุมวิเคราะห์สถานการณ์ทุกวัน และวางแผนแก้ไขปัญหาเชื่อมโยงกับวอร์รูมของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดใน 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน และพะเยา ซึ่งจะประเมินทั้งผลกระทบสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มระบบทางเดินหายใจ โรคตา โรคผิวหนัง และความปลอดภัยแหล่งน้ำกินน้ำใช้ของประชาชนด้วย ทั้งนี้ ปัญหาทางสุขภาพของประชาชน จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาจากควันไฟที่เกิดขึ้น ******************** 15 มีนาคม 2550