นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบคำถามสดกลางสภา ถึงอัตราการเกิดของประชากรไทยที่ลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่มั่นใจ ว่าบุตรจะเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพได้หรือไม่พร้อมยกระดับนโยบายส่งเสริมการเกิด ส่งเสริมการตั้งครรภ์คุณภาพ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ พัฒนามาตรฐานสถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์เด็กเล็ก และหนุนนโยบายสวัสดิการค่าเลี้ยงดูบุตรสำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ

            นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์ด้านประชากร พบว่า จำนวนการตายมากกว่าการเกิด เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยในปี 2566 จำนวนการเกิด เหลือเพียง 462,240 คน จำนวนการตาย 571,646 คน และจำนวนบุตรโดยเฉลี่ย ลดลงจาก 6 คนเหลือเพียง 1.12 คน การลดลงของจำนวนประชากร คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก อย่างน้อย 15 – 20 ปี ซึ่งปัญหาความไม่มั่นใจในการมีบุตรส่วนหนึ่งเกิดจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ กระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้เร่งดำเนินการจัดตั้งคลินิกเพื่อส่งเสริมการมีบุตร ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 901 แห่ง โดยแบ่งเป็น 3 ระดับคือ ระดับที่ 1 เป็นการให้คำปรึกษาในการวางแผนครอบครัว เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ และลดความเสี่ยงในการมีบุตร โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีโรคประจำตัว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคทางพันธุกรรม ระดับที่ 2 จะมุ่งเน้นการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) โดยขณะนี้ดำเนินการแล้ว 65 จังหวัด และระดับที่ 3 จะเป็นการให้บริการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ที่จะผลักดันให้ครบทุกภาค ซึ่งปัจจุบันมีคลินิกเปิดให้บริการแล้ว 3 ภาค คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ภายในปี 2568

             “กระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการมีบุตร และมีบุตรยาก ด้วยบริการด้านสุขภาพต่างๆมีทีมแพทย์คอยให้คำปรึกษาในทุกด้าน ตั้งแต่ก่อนมีบุตร จนถึงหลังคลอด ไม่ว่าจะเป็นด้านการวางแผนครอบครัว ด้านยา เวชภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนด้านโภชนาการที่จำเป็นต่อการมีบุตร มีโครงการอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี รายละ 600 บาท ต่อเดือน สำหรับครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน
1 แสนบาท ต่อคน ต่อปี และตั้งเป้าส่งเสริมและพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก เด็กปฐมวัยของภาครัฐ ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยมุ่งเน้นที่การจัดตั้งศูนย์เด็กเล็กในบริเวณที่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยของประชาชน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในด้านการเดินทาง และจะมีการให้ความรู้กับผู้ดูแลศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ ยกระดับศูนย์เด็กเล็กให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่สุด

***

กรมอนามัย / 19  กรกฎาคม 2568



   
   


View 21    19/07/2568   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมอนามัย