ใต้หรอยแรง! ชวนคนรักสุขภาพ ต้านโรค NCDs ฟิตกาย ฟิตใจ ภายใต้โครงการ LONG LIFE THAI FIT มหกรรมสุขภาพดี ที่ภูเก็ต

วันนี้ (19 กรกฎาคม 2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานมหกรรมสุขภาพดี ที่ภูเก็ต (Good Health @ Phuket) ภายใต้โครงการ LONG LIFE…THAI FIT ฟิตกาย ฟิตใจ พร้อมการเสวนาในหัวข้อ “Healthy Move & Smart Carbs” และร่วมออกกำลังกายกับเพลง “LONG LIFE THAI FIT” โดยมี นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย ร่วมงาน ณ ห้องประชุมเจ้าฟ้า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

          นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจัดมหกรรมสุขภาพดีได้ดำเนินการคครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือที่จังหวัดพิษณุโลก ภาคกลางที่จังหวัดสมุทรปราการ ภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น และภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต มีประชาชนร่วมออกกำลังกายมากกว่า 5,000 คน ซึ่งถือว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้คนไทยได้รับรู้ถึงการมีกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพให้เพียงพอ หรือ การออกกำลังกายเป็นประจำ สม่ำเสมอ เพื่อการมีสุขภาพดี และป้องกันโรค NCDs ควบคู่กับการกินอาหาร หรือ การนับคาร์บ ที่รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุข ยังคงให้ความสำคัญในการป้องกันโรค NCDs เนื่องจากเป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับแรกของคนไทย และจะเพิ่มสูงขึ้นตามโครงสร้างประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งโรค NCDs มีสาเหตุเกิดจากพฤติกรรมทางสุขภาพที่ไม่เหมาะสม อาทิ การบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม และการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ และยังก่อภาระค่าใช้จ่ายทางสุขภาพของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพคนไทย ปี 2564 สำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยแยกเป็นรายภาค เฉพาะภาคใต้ พบว่า สถานการณ์กิจกรรมทางกายประชาชนอายุ 15 ปี ขึ้นไป ใน 1 สัปดาห์ทำงานออกแรงปานกลาง ร้อยละ 66.84 ส่วนการออกกำลังกาย หรือ เล่นกีฬาปลานกลางนั้นมีเพียงร้อยละ 22.35 ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วง สำหรับพฤติกรรมการกิน พบว่า ประชาชนร้อยละ 90.25 ใน 30 วัน กินอาหารไขมันสูง 1-2 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ หากกินเป็นประจำอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs ได้

         นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามนโยบายคนไทย ห่างไกล NCDs ของกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย ยังร่วมขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว ทั้งนี้ จากข้อมูลในปี 2566 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ดำเนินการคัดกรองโรคในประชาชน อายุ 35 ปีขึ้นไป ของจังหวัดภูเก็ต จำนวน 2,960 คน พบว่า มีอัตราเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 45 และอัตราเสี่ยงโรคเบาหวานร้อยละ 35 สำหรับการจัดงานรณรงค์มหกรรมสุขภาพดี ที่ภูเก็ต กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัย ยังได้ร่มกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอและเหมาะสม สร้างการรับรู้ความสำคัญของการมีกิจกรรมทางกาย โดยภายในงานประกอบด้วย การแสดง “มโนราห์ชาย” การจัดแสดงบูธนิทรรศการ การให้ความรู้ด้านสุขภาพ และการออกกำลังกายพร้อมกัน ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุข ประชาชน เจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน นักเรียน และนักศึกษา รวมกว่า 1,000 คน และส่งมอบความรู้ ประสบการณ์ในการบรรยายมุมมองด้านสุขภาพ กับ Inspire Health Talk หัวข้อ “Healthy Move & Smart Carbs” เพื่อเสริมสร้างความรู้แก่ประชาชนชาวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงให้เข้าใจในการมีกิจกรรมทางกาย การนับคาร์บ เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

          แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้ประชาชนทุกช่วงวัยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงโรค NCDs  เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยผู้ใหญ่ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง เช่น เดินเร็ว อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายระดับหนัก เช่น วิ่ง หรือปั่นจักรยาน 75 นาทีต่อสัปดาห์ พร้อมเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เดินขึ้นบันได ยืดเหยียดขณะทำงาน ก็ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและลดพฤติกรรมเนือยนิ่งได้ ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ ด้วยการขยับให้มากขึ้นวันละนิด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพ

***

กรมอนามัย / 19 กรกฎาคม 2568